พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธพจน์มีอยู่ว่า ฆราวาสก็ดี บรรพชิตก็ดี เมื่อหมั่นปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วย่อมบรรลุมรรคผลได้เหมือนกัน ใช่หรือไม่
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร เป็นดังที่พระองค์ตรัสนั้น
ม. ถ้าอย่างนั้นพวกพระคุณเจ้าจะต้องบวชทำไม ลำบากเปล่า ๆ ต้องโกนผมโกนหนวด ต้องสำรวมกายวาจาใจ เป็นฆราวาสมีความสะดวกสบายหลายประการ
ครั้นเมื่อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็สามารถบรรลุมรรคผลได้เหมือนกัน ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ถือเพศฆราวาสจะมิดีกว่าหรือ
น. ขอถวายพระพร เพศบรรพชิตนั้นเป็นหนทางจะให้บรรลุมรรคผลได้เร็วกว่า เพราะบรรพชิตไม่มีสิ่งบำเรอความสุขมาหน่วงเหนี่ยวให้อาลัย
จึงมักน้อยสันโดษยินดีในที่สงบเงียบ สามารถตัดความกังวลทั้งหลายเสียได้ มีโอกาสที่จะประพฤติปฏิบัติธรรม อบรมกายวาจาใจของตน
หาโอกาสกระทำศีล สมาธิ ปัญญาให้บริบูรณ์ยิ่งขึ้นได้ เพศบรรพชิตจึงทรงคุณวิเศษกว่าเพศฆราวาสทุกประการ (คิหิปัพพชิตปฏิปันนวัณณนปัญหา)
ม. เอาเถอะ ถ้าเพศบรรพชิตมีประโยชน์เช่นนั้น จะต้องรีบบวชไปทำไม เพราะพระคุณเจ้าเองเคยบอกว่า การบวชมีประโยชน์ที่จะได้รู้ว่าทำอย่างไรจึงจะดับทุกข์ที่มีอยู่ได้
และทำอย่างไรจะมิให้ทุกข์อื่นเกิดขึ้น ดังนั้นจะรอเวลาให้เกิดทุกข์แล้วจึงบวชมิได้หรือ
น. ขอถวายพระพร เมื่อพระองค์กระหายน้ำขึ้นเมื่อใด จึงดำรัสให้ขุดสระเมื่อนั้นหรือ หรือว่าสงครามเกิดขึ้นเมื่อใด พระองค์จึงตรัสให้สร้างป้อมปราการและให้ทหารหัดเพลงอาวุธในเวลานั้นหรือ
ม. ต้องจัดทำไว้ก่อนสิพระคุณเจ้า รอไว้จนเวลาจำเป็นเช่นนั้นแล้วจะทำให้ทันความประสงค์ได้อย่างไร
น. เช่นกันหากรอเวลาให้ทุกข์เกิดย่อมหาโอกาสดับทุกข์ได้ยาก หรือหากทำได้ก็ไม่ได้รับผลเท่าที่ปรารถนา
แต่ถ้าจัดเตรียมไว้ก่อนถึงคราวเกิดทุกข์ก็สามารถกำจัดทุกข์ลงได้สมความมุ่งหมาย อาตมภาพเองต้องพยายามฝึกหัดกายวาจาใจไว้ให้มีกำลังพอ
เมื่อถึงคราวเจ็บไข้ได้ทุกข์ จะได้ใช้สิ่งที่เตรียมไว้ออกผจญ ถ้ามิได้เตรียมไว้ก่อนความทุกข์ก็จะได้เปรียบจนสามารถครอบงำจิตได้เรื่อย ๆ ไป
ดังพระพุทธดำรัสความว่า เมื่อรู้ว่ากิจใดจะทำให้พ้นจากทุกข์ได้ ก็พึงรีบพยายามทำกิจนั้นเสียให้สำเร็จ เพราะรู้ไม่ได้ว่าเราจะตายลงเมื่อใด (ปฏิกัจเจววายามกรณปัญหา)
ม. พระคุณเจ้าว่านี้ชอบแล้ว
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 17-05-2009 เมื่อ 04:01
|