พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เมื่อช่วงที่อาตมาไปเข้ากรรมฐานที่นครปฐม พระที่วัดฉวยโอกาสช่วงที่อาจารย์ไม่อยู่ ไปธุดงค์กันแล้วก็หลงป่า หลงอยู่ประมาณ ๑๐ วัน หลังจากที่ค้นหาตัวจนเจอแล้ว สรุปได้ความว่า พระ ๒ รูปไปด้วยกัน ตั้งใจจะเดินขึ้นอุ้มผาง ซึ่งจะต้องข้ามภูเขาลูกหนึ่งที่เขาเรียกว่า เขาก่องก๊อง
แต่เนื่องจากพวกเขาใจร้อนเกินไป รีบออกมาตั้งแต่ยังไม่หมดฝนดี แล้วหน้าฝนป่าจะเปลี่ยนสภาพไปเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ เถาวัลย์ ขึ้นจนปิดทางหมด หรือว่าต้นไม้ล้มจนปิดทาง หรือด่านสัตว์เปลี่ยนทางก็ตาม ทำให้พวกเขาจำทางไม่ได้ ในเมื่อจำทางไม่ได้ ก็ให้เพื่อนรุ่นน้องเฝ้าของไว้ แล้วตัวเองก็ไปเดินหาทาง
ปรากฏว่าเมื่อย้อนกลับมา เพื่อนรุ่นน้องหายไป ตัวเองเลยต้องเดินกลับย้อนไปจนถึงหมู่บ้าน ไปขอให้ชาวบ้านและตชด.ช่วยกันตาม ตามอยู่ ๒ วันไม่เจอ ถึงได้กล้าโทรมาวัด เพื่อขอให้พระไปช่วยตามให้ เรื่องไปถึงอาตมาหลังจากเลิกกรรมฐาน ได้พักผ่อนแล้ว เพราะช่วงปฏิบัติท่านให้เริ่มจากตี ๔ แล้วไปเลิกตอน ๔ ทุ่ม
พระท่านไม่กล้ารายงาน จึงเขียนโน้ตแปะไว้หน้าห้อง เราตื่นเช้าขึ้นมาดู ก็เท่ากับว่าพวกเขาหลงไป ๒ วันแล้ว นับถึงวันนี้ก็วันที่ ๓ แล้วสินะ อันดับแรกที่นึกถึงก่อน คือ แม่ธรณี สรรพชีวิตทั้งหลายอาศัยอกแม่ธรณีเป็นที่อาศัยที่เกิดทั้งนั้น ไปขอฝากท่านเอาไว้ก่อน ขอให้พระของเราปลอดภัย
ลำดับต่อไป ก็ยังมีแม่อีก ๔ ท่าน ก็คือ แม่คงคา แม่พระพาย แม่พระเพลิง และ แม่โพสพ ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เกี่ยวกับอาหารทั้งนั้น คือ อาหารทางร่างกาย และอาหารทางใจ เป็นทั้งกวฬิงการาหาร คืออาหารที่เป็นคำข้าวและน้ำ และผัสสาหาร อาหารคือลมหายใจ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 26-01-2011 เมื่อ 03:33
|