โลกธรรม ๘ และวิธีที่จะพ้นจากโลกธรรม ๘
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ ดังนี้
๑. “หนีไม่พ้นหรอก ตราบใดที่พวกเจ้ายังมีขันธ์ ๕ อยู่ในโลกนี้ โลกธรรม ๘ ย่อมเป็นธรรมดาที่ผู้มีขันธ์ ๕ อยู่ในโลกนี้จักต้องได้ประสบ มิใช่ว่าจักประสบมากหรือน้อย หากแต่
ต้องประสบทุก ๆ คน แต่จักรู้ตัวกันหรือไม่เท่านั้นเองว่า โลกธรรม ๘ กระทบในขณะใดบ้าง”
๒. “ทุกข์หรือสุข เกิดแก่อารมณ์ที่ถูกโลกธรรม ๘ กระทบอยู่นี้ จักพ้นโลกธรรม ๘ ได้ ก็จักต้องรู้จักหน้าค่าตาของโลกธรรม ๘ ด้วย
ต้องใช้ศีล สมาธิ ปัญญาเป็นเครื่องพ้น”
๓. “
สังโยชน์หมด แต่ขันธ์ ๕ ยังอยู่หรือยังไม่หมด โลกธรรมก็ยังกระทบแต่ไม่หวั่นไหว”
๔. “
สังโยชน์ไม่หมด แต่ขันธ์ ๕ หมด (ตาย) ก็ยังต้องจุติมากระทบกับโลกธรรมใหม่”
๕. “ไม่
วันใดวันหนึ่งข้างหน้าโน้น สังโยชน์หมด ขันธ์ ๕ หมด จิตวิมุติซึ่งพระนิพพาน ดินแดนนั้นไม่กระทบกับโลกธรรมเลย มีแต่สุขเอกันตะถ่ายเดียว ที่นั่นทุกท่านไม่มีกิเลสแล้ว นินทา-สรรเสริญ สุข-ทุกข์ มียศ-เสื่อมยศ มีลาภ-เสื่อมลาภ ไม่มี”
๖. “พวกเจ้าจักมาเอาสาระอันใดกับปากชาวโลก พระพุทธเจ้า-พระธรรม-พระอริยสงฆ์ที่เข้าพระนิพพานแล้ว เขายังนำเอามานินทา-สรรเสริญได้”
๗. “
คำว่าสรรเสริญของชาวโลก ส่วนใหญ่สรรเสริญเพื่อหวังสิ่งตอบแทน มิใช่สรรเสริญอย่างจริงใจ ยกพระพุทธเจ้า-พระธรรม-พระอริยสงฆ์ขึ้นบังหน้า หวังชื่อเสียง หวังลาภสักการะ หวังยศ แต่มิได้หวังปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน จึง
เป็นการสรรเสริญเพื่อหากิเลสใส่ตัว สรรเสริญอย่างนี้มีเยอะในสมัยนี้ ซึ่งไม่ต่างกับคำนินทาที่ว่า พระพุทธเจ้า-พระธรรม-พระอริยสงฆ์ดีไม่จริง คนส่วนใหญ่ในโลกนี้เป็นอย่างนี้ อันเป็นปกติธรรมของเขา พวกเจ้าจงอย่าไปสนใจเพราะหาสาระมิได้”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com