ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : เรื่องที่รู้ไปแล้วไร้ประโยชน์ อย่าไปรู้มันเลย เสียเวลาอธิบาย คุณจะศึกษาไปทำไมที่จะให้รู้ต้นเหตุทั้งหมด ยกเว้นจะไปเป็นพระพุทธเจ้า วิธีที่ดีที่สุด คือ ทำอย่างไรให้ตนเองพ้นทุกข์เร็ว ๆ
ถาม : เวลาออกบวช ไม่ได้พิจารณาอาหาร ทำอย่างไรจะพ้นกรรมนี้ ?
ตอบ : วิธีให้พ้นกรรมง่ายที่สุดคือ สร้างศีล สมาธิ ปัญญาให้สูงเข้าไว้ พอช่วงสุดท้ายของปัญญาก็จะเห็นว่าร่างกายนี้ก็ดี โลกนี้ก็ดี ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่น่ารัก น่าใคร่ น่ายึดถือ จิตจะถอนออกมา เลิกไปยึดไปเกาะ เท่านี้ก็พ้นแล้ว
ถาม : ก็แปลว่า ถ้าตอนบวชเป็นภิกษุ ทำชั่วมา แล้วสำนึกได้ กรรมทั้งหมดก็หมดไป ?
ตอบ : โทษเหล่านั้นยังติดตัวคุณไปอยู่ และจะเป็นตัวปิดกั้นมรรคผลไปตลอด เพราะคุณผิดศีลเสียตั้งแต่แรกแล้ว การละเมิดศีลเท่ากับเป็นโทษติดตัวเราไป ถ้าเป็นอาบัติหนักก็แก้ไขไม่ได้ ถ้าเป็นอาบัติเบา รู้สำนึกก็ให้แสดงคืนอาบัติเสีย ถ้าอย่างนั้นก็พอที่จะลดหย่อนผ่อนโทษไปได้บ้าง
ถ้าไปทำในส่วนของอาบัติหนัก อย่างเช่น สังฆาทิเสส หรือปาราชิก ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเหมือนโทษประหารหรือจำคุกตลอดชีวิต
ถาม : ก็แปลว่า ถ้าบวชอีกเราแสดงคืนอาบัติได้ ?
ตอบ : ถ้าปาราชิกไปแล้ว บวชอีกจะไม่ใช่พระ ถ้าสังฆาทิเสส บวชไปแล้วเคยไปละเมิดเท่าไร ก็ไปใช้หนี้คืนด้วยการอยู่ปริวาสนานเท่านั้น
ถาม : ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่พิจารณาอาหาร ?
ตอบ : ไม่เป็นไร เพราะเป็นอาบัติเล็ก เราไว้แสดงคืนอาบัติได้
ถาม : อาเคยเป็นเจ้าอาวาส โยมเขาถวายพระเครื่องไว้ อาสึกแล้วก็เอาพระกลับมาบ้าน ติดหนี้สงฆ์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ติดแน่นอน ใครทำก็เป็นโทษของคนนั้น ถ้าหากเรารู้ เราก็นำไปคืนเสีย
ถาม : แต่แม่กับอาท่านไม่รู้เรื่องราวอะไร
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้ท่านเอาไฟเผาบ้านท่านไป
ถาม : แล้วถ้าจะให้พระอยู่บ้าน เวลาชำระต้องชำระหนี้สงฆ์ด้วยราคา ?
ตอบ : ชำระด้วยราคาปัจจุบัน ถ้าเป็นพระที่นิยมในท้องตลาดก็จุกหน่อยนะ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2010 เมื่อ 01:54
|