๖. อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ จะทำให้คนรุ่นหลังตกนรกเพราะปรามาสพระรัตนตรัย เรื่องเหล่านี้ปุถุชนคนธรรมดาจะเข้าใจยาก (ผมขอยกตัวอย่างทางโลก พอถึงวันปฏิวัติรัฐประหารมีการฆ่ากัน ทำร้ายกัน พวกเขาก็จะกระตุ้นให้คนรุ่นหลังซึ่งไม่รู้เรื่องให้รู้ กันลืม บังคับให้จำแต่ของเลว ๆ ทำจิตให้เศร้าหมองอยู่เสมอ เพื่อตายแล้วจะได้ไปสู่ทุคติ เหมือนพวกในอดีตเหล่านั้น)
๗. อย่าลืม คนที่พลาดพลั้งเสียทีนั้นส่วนใหญ่ประมาท ทำอะไรไม่ใคร่ครวญเสียก่อน ชอบคิดแต่ส่วนดี จะเอาแต่ได้ เอาแต่คุณ เอาแต่สุข เพราะลืมไปว่าธรรมในโลกนี้มีเป็นคู่เสมอ จะเอาแต่อย่างเดียวไม่ได้ ไม่คิดให้ครบวงจร เพราะส่วนเสียเป็นโทษเป็นทุกข์ที่จักเกิดตามมามิได้คิด ด้วยเหตุที่มีอุปาทานผิด ๆ นั่นเอง สภาวะของโลกจึงนำไปสู่ความฉิบหายหรือทุกข์ หรืออนัตตาในที่สุด
๘. อย่าเอาอารมณ์คนอื่นมาใส่ใจเรา ยกเว้นอารมณ์ของพระอริยเจ้าเท่านั้นที่ควรใส่ใจ อารมณ์ ๒ เกิดเพราะชอบยุ่งกับผู้อื่นที่เป็นโลกียวิสัย จำเลวชอบ จำดีไม่ค่อยสนใจ ก็ขาดทุนทุกที เพราะลืมมงคลภายในที่ว่า อย่าคบคนพาล จงคบบัณฑิต บูชาคนที่ควรบูชา ชอบมีอารมณ์ขี้เก็บ หรือเก็บขี้อยู่เสมอ
|