ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 03-11-2010, 20:50
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 662
ได้ให้อนุโมทนา: 26,520
ได้รับอนุโมทนา 89,158 ครั้ง ใน 1,257 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

เห็นปะไลตักน้ำราดลงบนเครื่องบ่อย ๆ เพื่อระบายความร้อน อาตมารู้สึกว่าไม่เข้าท่า เพราะขนาดรถยนต์เวลาเครื่องร้อนยังต้องระวังน้ำให้จงหนัก อย่าให้ได้โดนเครื่องทีละมาก ๆ เป็นอันขาด ถึงขนาดฝาสูบร้าวมานักต่อนักแล้ว นี่เล่นตักราดเอา ๆ เดี๋ยวก็บรรลัยกันพอดี..!

ตูว่าแล้ว..ยังไม่ทันไรเลยพังเข้าจริง ๆ ไม่ใช่เครื่องพังหรอก แต่หนักพอกัน เพราะหางเรือที่เป็นรอยเชื่อม โดนน้ำเย็นเข้า เกิดร้าวขึ้นมาเมื่อไรก็ไม่รู้ ตอนนี้หลุดออกมาเฉยเลย เห็นแต่เพลาที่ดำปี๋ด้วยน้ำมันหล่อลื่น บ่าวเฒ่าระลึกชาติต้องคว้าพายขึ้นมาพายแทน "วันนี้ตูจะได้ไปไหมนี่..?"



บรรยากาศจะดีกว่านี้ ถ้าเรือของเราไม่เสีย

คัดท้ายเข้าชายตลิ่ง อาตมาคว้าเชือกหัวเรือผูกกับต้นไม้ พ่อออกปะไลคว้าขวานปีนขึ้นไปบนตลิ่ง ตัดไม้สำหรับดามหางเรือ เสียงฟันไม้โครม ๆ ไม่กี่ที เสียงร้อง "เฮ้ว..!" ด้วยความตกใจก็ดังลั่น "เป็นอะไรไปล่ะพ่อออก..?"..."งูมันหล่นใส่หัวน่ะครูบา..!" เอามาแต่ไม้ก็พอ งูไม่ต้องเอามาหรอก ยกเว้นว่ามีหลายตัวจะได้เอามาทำเชือก..!

ครู่ใหญ่แกก็หอบไม้ยาวสักเมตรมาสามท่อน แต่ควานหาทั้งลำเรือมีเศษเชือกสั้น ๆ อยู่ท่อนเดียว อาตมาจึงสละผ้ารัดอกของตัวเองให้แกใช้แทนเชือก แกเอาไม้ประกบสามมุม ดันรอยต่อเข้าที่จนสนิท แล้วเอาผ้าที่ฉีกเป็นเส้นมัดเป็นเปลาะ ๆ อย่างแน่นหนา เท่านี้ก็ไปต่อได้แล้ว...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2010 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา