เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๓
ให้ทุกคนนั่งตัวตรง กำหนดสติทั้งหมดอยู่เฉพาะหน้า อยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้ากำหนดรู้ตามเข้าไป หายใจออกกำหนดรู้ตามออกมา
หายใจเข้าผ่านจมูก..ผ่านกึ่งกลางอก..ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออกจากท้อง.. ผ่านกึ่งกลางอก..มาสุดที่ปลายจมูก จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามแต่เราชอบใจ
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็นการเจริญกรรมฐานวันสุดท้ายของต้นเดือนตุลาคม วันนี้อยากจะกล่าวถึงกรรมฐานที่ปฏิบัติได้ง่าย คำว่าง่ายในที่นี้ หมายถึงว่า ง่ายกว่าหมวดอื่น ๆ
ในการปฏิบัติกรรมฐานของเรานั้น ถ้าว่าไปตามหลักสมถกรรมฐานแล้ว มีอยู่ ๔๐ อย่างด้วยกัน คือ กสิณ ๑๐ อนุสติ ๑๐ อสุภกรรมฐาน ๑๐ ว่าไป ๓๐ อย่างแล้ว พรหมวิหาร ๔ อรูปฌาน ๔ รวมเป็น ๓๘ อาหารเรปฏิกูลสัญญา ๑ จตุธาตุววัตถาน ๑ รวมเป็น ๔๐ ด้วยกัน
ทั้ง ๔๐ อย่างนี้ หมวดของอนุสติ ๑๐ คือการตามระลึกถึงความดี ๑๐ อย่าง เป็นกรรมฐานที่ปฏิบัติได้ค่อนข้างจะง่ายกว่าหมวดอื่น ๆ เพราะว่าในอนุสติ ๑๐ นั้น ถ้ายกอานาปานุสติ การระลึกถึงลมหายใจเข้าออกเสีย ที่เหลืออีก ๙ กอง ทำเต็มที่ก็ไม่เกินอารมณ์ปฐมฌาน
เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านมีความฉลาด เมื่อถึงเวลาก็จับอานาปานุสติควบเข้าไปด้วย จึงทำให้อนุสติอีก ๙ กอง สามารถทำได้ถึงฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ก็ได้
ในเมื่อกรรมฐานทั้ง ๑๐ กองนี้ทำได้ง่าย และเป็นหลักยึดที่สำคัญของจิตใจของเรา โดยเฉพาะอานาปานุสติที่ป้องกันความฟุ้งซ่านทุกประเภทได้ จึงเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรจะศึกษาและปฏิบัติไว้ เพราะกระทำได้ง่ายและเห็นผลเร็ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-11-2010 เมื่อ 02:37
|