ข้าพเจ้าเฉยอยู่ เขาจึงพูดต่อ "จะไปหรือไม่ไป ถ้าไม่ไปจะได้เห็นดีกัน" ข้าพเจ้าหันไปดูพรรคพวกเห็นนั่งเฉยกันอยู่ ไม่มีอาการตกใจกลัว ใจค่อยชื้นขึ้นมา มองดูกิริยาอาการของวิญญาณต่ออย่างใจเย็น
เมื่อพวกเราไม่ตอบแถมยังไม่แสดงอาการกลัว ทำให้เขาโกรธมากขึ้น เขาตวาดพวกเราด้วยเสียงดังพร้อมกระทืบเท้าอันใหญ่ลงบนพื้น "ถามก็ไม่พูด นั่งเฉยเหมือนท่อนไม้" พูดไปพร้อมยกกระบองทำท่าจะตีพวกเรา แต่ก็แสดงท่าทางให้พวกเรากลัวเท่านั้น
ข้าพเจ้าจึงพูดกับวิญญาณตนนั้น "สงบอารมณ์ได้แล้วหรือยัง? จะได้คุยด้วย กำลังโกรธอยู่คุยไปก็ไม่รู้เรื่อง เพราะในใจของท่านมีแต่ดุร้าย จะใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำลายพวกเราตลอดเวลา พูดไปก็แค่นั้น จะทำอะไรก็ทำมา เราไม่สู้อยู่แล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้กับท่าน ตัวก็ใหญ่ใจก็หยาบ จะพูดด้วยทำไม? มาถึงก็จะเอาให้ตายเสียแล้ว พูดไปก็ต้องตายกันหมดด้วยไม้กระบองอันใหญ่ของท่าน
ที่มานี่ก็เตรียมกายเตรียมใจไว้แล้ว ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ท่านไม่ฆ่าพวกเราก็ต้องตายอยู่ดี หนีไม่พ้น ท่านฆ่าเราวันนี้ก็ตายเร็วหน่อย มันจะต้องกลัวอะไร? มันไม่ต่างกัน ตายก็คือตาย ลดจริตความโกรธลงมาเสียก่อน แล้วค่อยฆ่าก็ได้ ไม่ได้หนีไปไหน เหาะก็ไม่ได้ บินก็ไม่ได้เพราะไม่มีปีก หายตัวก็ทำไม่เป็น วิชาอาคมก็ไม่มี จะสู้อะไรกับผู้ยิ่งใหญ่อย่างท่านได้ มีทั้งความเก่ง มีทั้งวิชาอาคม ตัวก็โต กระบองก็ใหญ่"
|