| 
				  
 
			
			มีพระอยู่รูปหนึ่งไปอาศัยพักที่วัดท่าขนุน ท่านจะเดินทางเข้าทุ่งใหญ่ แล้วก็ลัดไปห้วยขาแข้ง 
 ท่านมีแผลเป็นใหญ่มากบนศีรษะ เพราะโดนหมีกัด จึงถามว่า "คุณรอดมาได้อย่างไร ?" ท่านเล่าให้ฟังว่า  ท่านเองก็ไม่รู้ว่ามีหมีนอนอยู่หลังขอนไม้ ท่านปีนข้ามไปเหยียบเข้า  หมีลุกขึ้นมาได้ก็รัดท่านเอาไว้ อ้าปากขบหัวเลย  ท่านบอกว่า เสียงเขี้ยวทะลุกะโหลกศีรษะดัง "โป๊ะ" ได้ยินชัด ๆ เลย แล้วท่านก็หมดสติไป หมีคิดว่าท่านตายแล้วก็เลยวางทิ้ง
 
 ท่านสลบไปหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน  ตื่นขึ้นมามดแดงเต็มไปหมด  มดยกขบวนมากินเลือด เพราะเลือดนองพื้นไปหมด  ท่านต้องเอาผ้าอาบพันหัวแล้วโซซัดโซเซออกมาหาหมอ รักษาตัวอยู่ตั้งหลายเดือนกว่าจะหาย
 
 ท่านบอกว่า โชคดีที่เขี้ยวหมีฝังไม่ถึงเนื้อสมอง ส่วนที่โดนไม่ใช่ส่วนสำคัญ  มิเช่นนั้นท่านอาจจะเป็นอัมพาต ออกไปไหนไม่ได้ ตายอยู่ตรงนั้นเลย..!
 
 จุดที่อาตมานับถือน้ำใจท่าน คือ ท่านกำลังจะเข้าป่าไปใหม่ เป็นพวกเราจะกล้าไหม ? โดนเข้าไปขนาดนั้น  แสดงว่าท่านเอาชนะความกลัวของตัวเองได้ ถ้าเอาชนะความกลัวไม่ได้ ไม่มีทางที่จะกล้าเข้าไปอีก
 
 อย่าลืมว่าพระครูหน่อยของเรา ท่านไม่ได้โดนเสือกัดนะ  แค่ไปจ๊ะเอ๋มองตากับเสือเท่านั้นเอง  กลายเป็นว่าชวนเท่าไรก็ไม่เข้าป่าอีก  ท่านไม่ได้โดนกัดเลยนะ แต่พระท่านนี้โดนกัด แล้วแผลดูน่ากลัวมากด้วย
 
 ท่านสามารถเอาชนะความกลัวตาย ซึ่งเป็นเหตุของความกลัวทั้งหมดได้  กลับเข้าไปธุดงค์ใหม่ ต้องนับว่าเป็นสุดยอดกำลังใจ ลองเปรียบเทียบกับพวกเราดู แค่โดนพวกสัตว์ไล่ จะกล้ากลับเข้าไปอีกไหม ?
 
 แต่พระก็เอาชีวิตไปทิ้งในป่าได้ทุกปี ยิ่งระยะหลัง  พวกพรานยิงสัตว์เจ็บเอาไว้ เวลาสัตว์เจอคน เขาไม่ได้แยกหรอกว่าพระหรือพราน เขาเห็นว่าเป็นคนที่เคยทำร้ายเขาเท่านั้น  จึงมักพุ่งเข้าใส่ก่อนเลย..!
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 20-10-2010 เมื่อ 02:40
 |