| 
				  
 
			
			ถาม :  ปฏิบัติสมาธิแล้วเกิดการชา เหมือนเป็นจุด ๆ ตรงกลางหน้าผาก บางทีก็ไหลมาอยู่ตรงจมูก  ถ้านั่งสมาธิแล้วเห็นเป็นกายของเรา พิจารณาไปว่ามันเป็นกาย ถ้ามีอาการเจ็บปวด ก็ตามดูเวทนา ดูที่จิตเหมือนกับว่ามีแสงเหมือนสามเหลี่ยมตรงตัวผม พอจะรีบออกจากสมาธิ มันออกไม่ได้ มันมึนครับ  อีกข้อ ที่ปรารถนาอยู่ ถ้ายังโลเลอยู่ จะเป็นมิจฉาทิฏฐิหรือเปล่าครับ ?
 ตอบ : จะเรียกว่ามิจฉาทิฏฐิก็ไม่ได้ เพียงแต่ว่าบารมียังไม่เข้มข้นพอ   ตกลงทั้งหมดที่ว่ามามีคำถามนี้คำถามเดียว นอกนั้นเป็นคำบอกเล่าเฉย ๆ ไม่ถามก็ไม่เป็นไร แต่อาตมาอยากจะบอก
 
 ในเรื่องของการปฏิบัตินั้น อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เขาไม่ให้ใส่ใจ  เพราะถ้าใส่ใจสมาธิจะไม่ก้าวหน้า  ต้องตัดสินใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับเราก็ตามที ถึงจะตายลงไปตอนนั้นก็ตาม  เรากำลังทำความดีอยู่ เราต้องไปดีแน่  ถ้าตัดใจได้ขณะนั้น ความก้าวหน้าในการปฏิบัติก็จะมี
 
 พอเราเข้าถึงอุปจารสมาธิ ภาพและแสงสีต่าง ๆ ก็จะปรากฏ  ถ้าเราไปให้ความสนใจ  ความก้าวหน้าในสมาธิก็จะไม่มี จะติดอยู่แค่นั้น  ถ้าเราไม่สนใจ ภาพนั้นจะยิ่งชัด  เหมือนกับตั้งใจจะก่อกวนเรา  เราจึงจำเป็นที่จะต้องสักแต่ว่ารู้  สักแต่ว่าเห็น
 
 ส่วนข้อสุดท้ายมีใครบอกไหมว่า คุณพูดเร็วฉิบหายเลย..!
 
 ถาม : ใช่ครับ มีคนบอก
 ตอบ : ระวังเอาไว้บ้าง  คนแก่เขาจะฟังไม่ทัน
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2019 เมื่อ 20:57
 |