สถานภาพขณะนั้นเหมือนถูกอสรพิษกัด ไม่มีเซรุ่มฉีด จิตมันเดือดพล่านเอาไม่อยู่ ระงับอารมณ์ไม่ได้ พิษมันแผ่ไปทั่วจิต พิษของกิเลสนั่นแหละ ก็น่าเห็นใจเราเลี้ยงฟูมฟักมาจนโต ออกลูกออกหลานมากมายให้อาศัยในจิตของเราได้ เดินวนอยู่นาน จนได้ยินเสียงเรียกของพวกที่ไปเอาน้ำดังมา จิตเหมือนได้พบหมอ หมอกำลังเอายามาฉีด จากทุกข์มันเปลี่ยนเป็นปีติยินดีทันที มันช่างเร็วเหลือเกิน
นี่แหละที่บอกว่า เราตามรู้อารมณ์ของเราแต่เราไม่รู้จักบังคับยับยั้งจึงเกิดโทษในการครองตน รู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้บังคับหรือกำหนดหรือกำหนดได้อย่างมีความช่ำชอง ต้องชำนาญในการกำหนดจิตในการเข้าสู่อารมณ์ของจิต ในการหยุดอารมณ์ของจิต ในการพิจารณาอารมณ์ในจิต ในการออกจากอารมณ์ที่ครองจิต มีความสำคัญมากต่อการฝึก ต่อการสร้าง ต่อการเรียนรู้ ต่อการวิเคราะห์สังเคราะห์จิตของเรา ต่อการทำลายอารมณ์ที่ไม่ต้องการ ต่อการแสวงหาความสงบทางจิต อันเป็นแก่นที่สำคัญต่อตัวเรา ขอท่านผู้เจริญจงพิจารณาธรรมข้อนี้ให้ลึกลงจิต จิตจะคลายอุปาทานสัญญา (การยึดมั่น ถือมั่น ในการจำได้หมายรู้)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-10-2010 เมื่อ 04:51
|