มีหน้าที่ภาวนาไป จะได้หรือไม่ได้ช่างมัน
ถาม : จะขอรบกวนถามเรื่องสมาธิ เคยนั่งสมาธิครั้งหนึ่ง แล้วรู้สึกจิตสงบดี ..(ไม่ชัด)..?
ตอบ : แล้วหลังจากนั้นเข้าถึงตรงจุดนั้นได้อีกหรือไม่ ?
ถาม : ได้ครั้งเดียว พยายามหลายครั้งแล้ว เข้าไม่ได้ ?
ตอบ : นั่นแหละ เพราะว่าคุณพยายามจะเข้าให้ได้ ก็เลยไม่ได้ เพราะตอนนี้จิตของคุณฟุ้งซ่านด้วยความอยาก จึงไม่สงบเป็นสมาธิ จำเอาไว้ว่า ถ้าอยาก...จะไม่ได้หรอก
ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่า อารมณ์ฌานทุกระดับจะมีตัวสุดท้ายคือ เอกัคตารมณ์
ถ้าหากว่าเป็นผู้ที่จิตละเอียดมาก อย่างพระโพธิสัตว์บารมีสูง ๆ ท่านจะแยกออกได้ว่า เอกัคตารมณ์นั้น จะประกอบไปด้วย เอกัคตา คือ อารมณ์ที่ตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียว กับอุเบกขา คือ ความปล่อยวาง
จำไว้เลยว่า ถ้าเราอยาก จะเข้าไม่ถึงตัวอุเบกขานั้น เราต้องปล่อยในลักษณะว่า เรามีหน้าที่ภาวนา จะได้หรือไม่ได้ก็ช่างมัน
ถ้าถึงเวลา ถึงวาระที่สมควร ก็จะลงล็อกไปเอง ถ้าเราสามารถปล่อยกำลังใจได้ว่า จะเป็นหรือไม่เป็นก็ช่างมัน จะได้เร็วมาก ตราบใดที่ยังอยากอยู่ เราจะไปไม่ถึงตรงจุดนั้น เพราะทำเมื่อไรก็ไปนั่งฟุ้งซ่านว่าเมื่อไรจะได้เสียที
อาตมาเองติดอยู่สามปีเต็ม ๆ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะเลิกไปนานแล้ว แต่ว่าของอาตมานั้น อย่างไรก็ต้องทำให้ได้ เลือดบ้ามีมากกว่าชาวบ้านเขาหน่อย ทำเท่าไรไม่ได้สักที เพราะไปจ้องดูขั้นตอนที่จะเป็นสมาธิ คราวที่แล้วเป็นอย่างนี้นะ ขนลุกซ่า ๆ มาหน่อยหนึ่ง พอมาถึงตรงนี้ต่อไปอีกหน่อยจะเป็นอย่างนี้ ไปตามจี้อยู่อย่างนั้น สมาธิจึงโผล่มาไม่ได้หรอก เพราะความอยากมากเกินไป ตัวอยากเป็นความฟุ้งซ่าน สมาธิจึงไม่ทรงตัว
จนกระทั่งวันหนึ่ง อาตมาเหนื่อยใจเต็มที จะได้หรือไม่ได้ก็ช่างเถอะ เรามีหน้าที่ภาวนาก็ภาวนาไป ป๊อกเดียวลงล็อกเลย คือกลายเป็นการปล่อยวางในลักษณะอุเบกขาพอดี
ตอนนั้นบังเอิญทำได้ โง่อยู่สามปีถ้วน ๆ แล้วหลังจากนั้นก็เลิกโง่ โง่ในที่นี้หมายถึงเลิกโง่เรื่องนี้เรื่องเดียวนะ เรื่องอื่นก็ยังคงโง่ต่อไป
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2015 เมื่อ 11:03
|