| 
				  
 
			
			ถาม : ตอนนี้ลูกปฏิบัติสติปัฏฐานสี่แบบยุบหนอพองหนอ  ลูกมีโอกาสอ่านหนังสือ  เจอที่ท่านบอกว่าให้เอาจิตจับที่พระนิพพานเป็นหลัก  อันไหนควรจะให้ความสำคัญสูงสุดกว่ากันคะ ?ตอบ  :  ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เราทำ  ถ้าเราทำมาทางยุบหนอพองหนอ เราก็ต้องกำหนดรู้ปัจจุบันไปด้วย  แต่ให้อธิษฐานตั้งใจว่า ถ้าตายเราขอไปพระนิพพานเพิ่มเข้าไปหน่อย  ของเก่าก็ใช้ได้อยู่แล้ว  แต่ว่าเพิ่มต่อไปนิด
 
 ถาม : หนูอ่านในเว็บเจอ  ที่ท่านเมตตาสอนว่า ให้กำหนดจิตส่วนหนึ่งแบ่งเกาะอยู่ที่พระนิพพาน
 ตอบ :  ก็บอกแล้วว่าเป็นคนละวิธีกัน  ขึ้นอยู่กับว่าเราถนัดวิธีไหน   ถ้าอย่างพวกนี้ (ชี้ไปที่คนในบ้านอนุสาวรีย์) เขามาทางด้านนี้นานแล้ว  เขาจะสามารถปฏิบัติตามนั้นได้เลย
 
 แต่เราต้องไปกำหนดพองยุบ กำหนดรู้อยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน  นั่นเป็นคนละส่วนกัน   แต่จะเรียกว่าส่วนเดียวกันก็ได้ แต่เราเปลี่ยนจากการรู้ปัจจุบันไปรู้นิพพานแทน  แต่ถ้าไม่เคยชินเดี๋ยวเราก็จะไปกำหนดรู้หนอ ๆ แล้วนิพพานก็จะหล่นหายไปอีก
 
 ถาม : แล้วถ้าหนูจะมาฝึกแนวนี้
 ตอบ : เคยถนัดแบบไหนให้ทำแบบเดิมจ้ะ   เพียงแต่เราตั้งใจว่า การปฏิบัติของเราทั้งหมดนี้ อานิสงส์ที่ต้องการทั้งหมดคือพระนิพพาน  ถ้าหากเราตายไปเมื่อไร  เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว ให้ปิดท้ายอย่างนี้ไว้
 
 ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เราทำมาชำนาญแล้ว  เมื่อเราไปเปลี่ยนเอาของใหม่ จิตใจเรายังไม่ยอมรับ   เราเคยพองหนอยุบหนอ เราก็พองยุบไป เพียงแต่ว่าตบท้ายเกาะพระนิพพานเอาไว้ด้วย
 
 ถาม : ที่ท่านบอกว่าให้รู้พระนิพพาน ให้รู้อย่างไรคะ ?
 ตอบ : พวกนี้ส่วนใหญ่เขาเคยฝึกมโนมยิทธิมา   เขาจะสามารถรู้เห็นพระนิพพานได้จ้ะ ในเมื่อรู้เห็นได้ก็กำหนดใจเกาะพระนิพพานได้
 
 เรื่องของการฝึกจริง ๆ แล้ว ไม่ได้ขัดกันหรอกจ้ะ เพียงแต่ว่าเราถนัดอย่างไหน  ถ้าหากว่าไปเปลี่ยนใหม่  เท่ากับเริ่มต้นใหม่  ความเคยชินเดิม ๆ อาจจะทำให้ใจของเราไม่ยอมรับแล้วก็ไปได้ช้า  ก็เหลืออยู่อย่างเดียวว่า  เอาของเดิมของเราแล้วไปต่อท้ายด้วยพระนิพพาน
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 12-10-2010 เมื่อ 02:01
 |