ชื่อกระทู้: ยาปะนะมัตถ์
ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 09-10-2010, 02:15
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,412
ได้รับอนุโมทนา 206,750 ครั้ง ใน 3,181 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ยาปะนะมัตถ์

ถาม : โอวัลติน หลังเที่ยงแล้วฉันได้หรือไม่ ?
ตอบ : โอวัลติน จริง ๆ ถ้าเป็นพระธรรมยุติท่านจะไม่ฉัน เพราะว่ามีส่วนผสมของข้าวมอลต์และไข่ซึ่งเป็นอาหาร

พวกข้าว พวกถั่ว พวกงา เขาถือเป็นอาหารหมด น้ำเต้าหู้เขาก็ถือว่าเป็นพวกถั่ว จัดเป็นอาหาร ฉันไม่ได้เช่นกัน

แต่ว่าก็ถ้าหากว่าเป็นมหานิกาย ส่วนใหญ่ไม่ถือ คือฉันเพื่อยังอัตภาพร่างกายนี้เท่านั้น บำบัดความหิวลักษณะที่เรียกว่า ยาปะนะมัตถ์ คือแค่อาศัยบรรเทาความเวทนาของร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่ประเภทฟาดกันจนจุก ครึ่งชั่วโมงแก้วหนึ่ง ก็เกินไป

แล้วก็มีตัวอย่างที่เคยทำมาแล้ว ตักโอวัลตินใส่ไปครึ่งถ้วย นมข้นตามอีกครึ่งหนึ่ง กวนจนเหนียวเป็นกาว แล้วก็นั่ง "โซ้ย" กัน อาตมาเห็นก็ แหม..ฉันข้าวเสียก็หมดเรื่อง ยังน่าเกลียดน้อยกว่า

เคยมีอีกตัวอย่าง ลักษณะไปเชื่อรุ่นพี่ รุ่นพี่ที่ทำผิด ๆ มีเยอะ เราต้องยึดตำราไว้ก่อน แต่อย่าไปเถียงกับท่าน ไปเถียงท่านเดี๋ยวทะเลาะกัน

บางครั้งเขาออกไปปริวาส เจอพวกน้ำฟักทองปั่นอย่างนี้ น้ำมันเทศปั่นอย่างนี้ นั่นเป็นอาหารชัด ๆ เลย ฟักทองต้มเสร็จ ปั่นใช่ไหม ? เกือบ ๆ จะเป็นข้าวต้มอยู่แล้ว นั่นเขาก็อ้างว่าฉันได้

จัดอยู่ในประเภทที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า เหตุที่ทำให้พระสัทธรรมของพระองค์ท่านเสื่อมไปคือ สิ่งที่ไม่ได้บัญญัติไว้ ก็อ้างว่าบัญญัติ สิ่งที่บัญญัติไว้ ถ้าไม่สมควรแก่ตัวก็ลบล้างว่าไม่มี

อย่างนี้ แบบเดียวกับทิด...ไปบวชที่จังหวัด...บ้านเกิดหนึ่งเดือน อดข้าวได้เจ็ดวัน อีกยี่สิบเอ็ดวัน ฉันตลอดเพราะว่าเขาฉันกันทั้งวัด ฉันเสร็จแล้วเขาก็ไปปลงอาบัติ เขาถือว่าการฉันข้าวเป็นแค่อาบัติปาจิตตีย์ ปลงได้ แล้วเขาก็หน้าด้านปลงกันทุกวัน ฉันเสร็จแล้วก็ไปปลงอาบัติ เจริญไหม ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2015 เมื่อ 17:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา