มีพระเถระทยอยกันมาอีกหลายรูป ล้วนแต่น่ารักเหมือนปู่เหมือนตา คุยกันไม่รู้เรื่องตีใบ้ก็ยังเอา สนุกสนานเฮฮากันอยู่รอบวงสะตุมาดุ๊ (จตุมธุ) ซึ่งเป็นของที่ฉันหลังเที่ยงไปแล้วได้โดยไม่ผิดพระวินัย ทำมาจากน้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำมันงาและเนย เคี่ยวเข้าด้วยกัน รสหวานเลี่ยน ๆ พิลึก...

พระไปนั่งล้อมวงจตุมธุ ญาติโยมก็ล้อมวงพาข้าวแลงกันบ้าง
ความจริงทางพม่าเขานิยมของฉันหลังเที่ยงไปแล้วชนิดหนึ่งเรียกว่า ละแพ็ด ทำด้วยใบชาหมัก (เมี่ยง) ผสมกับ ถั่ว งา กุ้งแห้ง กระเทียม และมะเขือเทศ ถือเป็นของที่เป็นหน้าตาของแต่ละวัด ถ้าวัดใดถึงเครื่องถึงรสให้ฉันได้ไม่อั้น เขาก็จะกล่าวขวัญกันไปนานแสนนาน อาตมาทราบดีว่ามันผิดพระวินัยเต็มประตู เพราะถั่ว งา กุ้งแห้ง มะเขือเทศ เป็นอาหารชัด ๆ ท่านนาวินก็ทราบดีเช่นกัน ดังนั้นงานของวัดหนองบัว ครูบาน้อยจึงห้ามญาติโยมทำละแพ็ดเลี้ยงพระเป็นอันขาด เพราะเขาปรับอาบัติเท่าฉันอาหารเย็นเลยทีเดียว มีหลายท่านบ่นที่วัดนี้ไม่มีละแพ็ดให้ฉัน ท่านว่าสะตุมาดุ๊มันไม่อิ่มท้อง...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-10-2010 เมื่อ 16:56
|