| 
				  
 
			
			"ประมาณปี ๒๕๔๕  มีข่าวลือว่า พวกที่รับขนคนมอญต่างด้าวเข้าประเทศ เอาคนมอญไปฆ่าทิ้ง ๓๐ กว่าคน อยู่ในเกาะที่เป็นพื้นที่เหนือเขื่อนเขาแหลม  ข่าวลือหนักขึ้น ๆ  ท้ายสุดอาตมาก็เลยเดือดร้อน เพราะว่าเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัย 
 ในเมื่อเรื่องลือกันหนักขนาดนั้น ก็ต้องออกไปพิสูจน์ทราบ เขาบอกว่าพวกที่ขนต่างด้าวเข้าเมืองไม่สามารถจะผ่านด่านได้ เลยเอาไปซ่อนไว้ในเกาะ หลายวันเข้าไปส่งอาหารให้ไม่ไหว ก็เลยเอาข้าวคลุกยาฆ่าแมลง (แลนเนต) ให้กิน  คนจึงตายหมด  เขาบอกว่ากลิ่นศพเหม็นตลบไปเป็นกิโล ๆ  ขนาดเรือผ่านไกล ๆ ยังได้กลิ่นเลย..!
 
 อาตมาเลยให้เขาไปสืบว่ามีใครรู้บ้าง  พอไปได้ตัวคน ๆ หนึ่งเขาบอกว่า "ได้ยินอีกคนหนึ่งพูด"  คน ๆ นั้นมีเรือนแพอยู่ในพื้นที่เขื่อน  มีอาชีพหาปลา อาตมาเลยพาคณะไปพิสูจน์กัน เช่าเรือ ๒,๕๐๐ บาท เติมน้ำมันต่างหาก วิ่งตั้งแต่สังขละบุรีลงมา เลาะมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงวังปะโท่ของทองผาภูมิ  คือวิ่งมาเกือบร้อยกิโลเมตร ไม่พบอะไรเลย
 
 พอไปเจอบุคคลคนนั้น เขาก็ว่า "อีกคนหนึ่งเล่ามา" ตามไปเจอก็มีแต่ "เขาเล่าว่า" มาตลอด  เรารู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริง เพราะถ้ามีคนมอญตายขนาดนั้น หลวงพ่ออุตตมะท่านไม่อยู่เฉย ๆ หรอก นี่เป็นข้อสังเกตที่หนึ่ง   ข้อสังเกตที่สองก็คือ   คนเราโง่ขนาดไหนก็ตาม ข้าวคลุกยาฆ่าแมลงใครจะกิน ?
 
 ยาฆ่าแมลงกลิ่นแรงขนาดนั้น ลองถามซิ...ว่าถ้าเป็นเราจะกินไหม ? ต่อให้หิวแทบตายก็ไม่กินแน่  แต่คราวนี้ที่อาตมาไป  ไปทำไม ? ก็ไปเพื่อกลับมายืนยันกับพวกที่ลือกัน ว่า "กูไปมาแล้ว เรื่องไม่จริงโว้ย..พวกมึงเลิกลือกันได้แล้ว..!"  ต้องเสียเงินขนาดนั้น และต้องลำบากตากแดดจนหลังลอก   เพราะว่าเรือไม่มีหลังคา  ตากแดดอยู่ครึ่งค่อนวัน"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-02-2019 เมื่อ 11:28
 |