| 
				  
 
			
			"ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือท่านชาติชาย พระรุ่นน้องของอาตมา บวชที่วัดท่าซุงเหมือนกัน ออกจากวัดมาอยู่กับอาตมาที่เกาะพระฤๅษี ท่านเองเดินจงกรมภาวนา  ไม่กินไม่นอนอยู่สองเดือนเต็ม ๆ อยู่ได้อย่างไรก็ไม่รู้ ? ถ้าไม่ได้มีกำลังสมาธิหนุนเอาไว้ก็คงตายไปแล้ว..! 
 ภายหลังร่างกายไม่ไหวก็เกิดอาการกรรมฐานแตก  ที่เขาเรียกว่า สติแตก อาตมาต้องเอาตัวเข้าโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ตอนที่ไปเก็บข้าวของให้พี่น้องของท่านเอาไป  ไปเจอสมุดบันทึกของท่าน พออ่านดูจึงรู้ว่า เวลามารเขาหลอก เขาจะบอกความจริงเราประมาณ  ๘๐ - ๙๐ เปอร์เซ็นต์  แล้วก็หลอกไว้นิดหนึ่ง   ถ้าวิจารณญาณไม่ดีจะเชื่อเขาหมดเลย
 
 อย่างเช่นในการปฏิบัติ มีวันหนึ่งท่านบันทึกว่า "วันนี้พระมาบอกว่า  ช่วงเวลาแห่งมรรคผลมาถึงแล้ว  นักปฏิบัติที่ดีต้องกินน้อย พูดน้อย  นอนน้อย ปฏิบัติให้มาก  ยิ่งทุ่มเทมากเท่าไรยิ่งมีผลเร็วเท่านั้น"
 
 มีตรงไหนผิดบ้างไหม ? ไม่มีเลยใช่ไหม ? แต่ผิด..!   "นักปฏิบัติที่ดีต้องกินน้อย พูดน้อย  นอนน้อย  ปฏิบัติให้มาก"  ชัดเลย นี่เป็นพระพุทธวจนะ  แต่ "ยิ่งทุ่มเทเท่าไรยิ่งมีผลเร็วเท่านั้น"  ตรงนี้ไม่ใช่
 
 เพราะการปฏิบัติจะมีวาระมีเวลาของเขา ถ้าเราทำไม่ถึง ทำไม่พอ อย่าหวังเลยว่าผลจะเกิด  ทีนี้ท่านอยากได้ ก็ไปทุ่มเทเดินจงกรมภาวนา ต่อเนื่องกันทั้งวันทั้งคืน  สองเดือนเต็ม ๆ ไม่รู้อยู่ได้อย่างไร ?  พอร่างกายไม่ไหวก็เรียบร้อย..!"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2010 เมื่อ 17:20
 |