| 
				  
 
			
			"จะว่าไปแล้วบ้านเราในเรื่องของการศึกษา คุณธรรมจริยธรรมล่มสลายไปตั้งแต่แยกโรงเรียนออกจากวัดแล้ว  ในปัจจุบันนี้โรงเรียนดัง ๆ อย่างเทพศิรินทร์ เทพลีลา  เขาตัดคำว่า "วัด" ออกหมด
 ถ้าเราไม่เคยศึกษาค้นคว้ามาก่อน จะไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้วัดคือสถานศึกษา  ทุกคนจะเรียนต้องเรียนกับวัด  พระนอกจากจะสอนให้เขียน ก.กา แล้ว ยังต้องสอนจริยธรรมและศีลธรรมด้วย เด็กจะใกล้ชิดกับวัด จะไม่กลัวพระ คุ้นชินกับพระ  อาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร ได้ตั้งแต่เล็ก ๆ  สมัยนี้ลองถามดูสิว่า ทั้งห้องนี้มีกี่คนที่อาราธนาได้
 
 ตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกตัว จึงมีการจัดครูพระไปสอนศีลธรรมในโรงเรียน  แต่ปรากฏว่าเด็กห่างศีลห่างธรรมไปเยอะ จึงไม่ค่อยจะสนใจ  พอถึงวิชาพุทธจริยศึกษา เด็กก็นั่งกินขนม  นั่งหลับ นั่งคุยกัน  เด็กที่โต ๆ หน่อยระดับมัธยม  ก็นั่งแต่งหน้าทาปากอยู่ท้ายห้อง  พระท่านก็ตักน้ำรดหัวตอไปเรื่อย ๆ  ไม่หวังว่าตอจะงอกหรอก แต่อย่างน้อย ๆ ให้เปียกบ้างก็ยังดี
 
 เด็กสมัยนี้จึงค่อนข้างจะก้าวร้าว เพราะสังคมเป็นไปในแนวนั้น   ประเภทเห็นเด็กกินอาหารฟาสต์ฟู้ดกับโค้ก ผู้ใหญ่เข้าไปแนะนำ  "หนู ๆ กินมาก ๆ ไม่ดีนะ กินมาก ๆ ร่างกายจะแย่  ขาดสารอาหารด้วย" เด็กก็บอกว่า "ปู่ของผมอายุตั้งร้อย..!"  ผู้ใหญ่เขาก็งง  "ปู่ของหนูก็กินแบบนี้หรือ ?"  เด็กตอบว่า "เปล่า..ปู่ของผมไม่ยุ่งกับเรื่องชาวบ้าน..!"  ที่ปู่เขาอายุเป็นร้อยเพราะไม่ยุ่งกับเรื่องชาวบ้าน แต่เรามายุ่งกับเขา อาจจะอายุสั้น
 
 สภาพสังคมที่เปลี่ยนไป  ทำให้เรื่องอปจายนมัย (ความอ่อนน้อมถ่อมตน) ไม่มี  ถ้าเป็นสมัยก่อน  เด็กพวกนี้จะถูกจัดเป็นเป็นพวกหลังแข็ง ต้องตีให้หลังหัก  เดินผ่านผู้ใหญ่ไม่มีก้มหลังเลย  สมัยก่อนเขาจะก้มหลังเดินผ่าน แสดงความเคารพ  จะทำอะไรต้องขอโทษขออภัยก่อน"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-02-2019 เมื่อ 02:14
 |