"เด็กบ้านเราจึงทำอะไรเองไม่เป็น ทุกอย่างพ่อแม่บริการให้หมด สมัยนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ขนาดเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว พ่อแม่ยังต้องส่งข้าวส่งน้ำให้ลูกเวลาอ่านหนังสือ ตกลงลูกไม่ต้องทำอะไรเลย เราจึงเห็นว่าเด็กสมัยนี้จบปริญญาตรีแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย เพราะแทบจะไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเอง
ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เราไปใช้หลักสูตรให้เด็กคิดเองทำเอง ให้เด็กเป็นศูนย์กลาง จึงไม่เหมาะกับบทบริบทของสังคม แบบเดียวกับที่ครูอธิบายไปครึ่งชั่วโมง ถามว่ามีใครสงสัยอะไรไหม ?..เงียบ เข้าใจไหม ?..เงียบอีก ตกลงทั้งไม่สงสัยและไม่เข้าใจ แปลว่าอะไรกันแน่ ?
นอกจากนี้ สังคมของเราเปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูก ลูก ๆ มักจะอยู่กับพี่เลี้ยงมากกว่า พอถึงเวลาพ่อแม่กลับบ้าน ชื่นใจที่ได้เห็นหน้าลูก ลูกก็ร้อง "ฮ่วย..!" เว้าลาวได้ก่อนพูดไทยอีก เพราะพี่เลี้ยงเป็นลาว ก็เลยทำให้พ่อแม่ลูกไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันแบบก่อน แทบจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน
พ่อแม่ก็จะรู้สึกผิดลึก ๆ อยู่ในใจ จึงใช้วิธียัดเยียดทรัพย์สินเงินทองให้ เด็กพกเงินมาก ๆ ไปโรงเรียนไม่ใช่เรื่องดีเลย อำนวยความสะดวกให้เด็กได้ก็จริง แต่ก็จะพายาเสพติดมาให้ด้วย พวกที่เห็นว่าคนนี้มีเงินใช้ฟุ่มเฟือยก็มาเกาะติด หลอกให้ลองยา พอติดยาก็กลายเป็นแหล่งผลิตเงินให้คนอื่น
สมัยนี้เขามักจะเลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์กับเงิน ไม่รู้ว่าเด็กโตมาได้อย่างไร ? สังคมบ้านเราจึงค่อนข้างพิกลพิการอย่างที่เห็น "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2010 เมื่อ 02:46
|