| 
				  
 
			
			ถาม :  อารมณ์ปีติมีได้ทุกฌานใช่ไหมครับ ?ตอบ :  มีก่อนเข้าถึงฌาน เมื่อเป็นฌานแปลว่าข้ามพ้นปีติไปแล้ว  แต่ว่าถึงแม้เราจะได้ถึงสมาบัติ  ๘ แล้วก็ตาม  ถ้าวิสัยเดิมของเรามาสายพุทธภูมิ จำเป็นต้องรู้ปีติให้ครบ ปีติก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้อีก
 
 ถ้าเป็นดังนั้นต่อให้เราได้สมาบัติ ๘  แล้ว  ถ้าปีติจะเกิดขึ้น  อยู่ ๆ กำลังฌานจะลดลงมาเฉยเลย  แล้วปีติก็เกิดขึ้นจนพอใจ ให้เรารู้ชัดเจนแล้วก็จะเลิกไปเอง
 
 ถาม : แล้วจะกลับมาอีก ?
 ตอบ :  ถ้าตัวไหนเคยผ่านมาแล้วจะไม่เป็นอีก    ฉะนั้น..จะไปคิดว่าเราได้ฌานสูง ๆ แล้วจะไม่มีปีติอีก  ไม่ใช่หรอก...บทเขาจะมา กำลังฌานจะลดลงไปหน้าตาเฉย  แล้วปีติก็เกิดขึ้น
 
 ถาม : ถ้าเราปล่อยจะหายไหมครับ ?
 ตอบ :  รับรู้ไว้เฉย ๆ ไม่รู้ไม่ชี้ พอเต็มที่แล้วก็จะเลิกไปเอง
 
 ถาม :  ทันทีที่ผมจับลมจะอยู่ที่ฌานสาม  แล้วสักพักก็จะสั่น ๆ  บางทีก็เป็นปีติตัวพองขยาย
 ตอบ :  เขาเรียก ผรณาปีติ แสดงว่าฌานสามที่คุณเข้าใจยังไม่ใช่ฌานสามจริง ๆ
 
 ถาม :  จะวนอยู่อย่างนั้นมา  ๖ เดือนแล้ว
 ตอบ :  ไม่ต้องไปใส่ใจ อย่าอยากให้เป็น  อย่าอยากให้หาย  มีหน้าที่รับรู้ไว้เฉย ๆ จะเป็นอย่างไรก็ช่าง ถ้าวางกำลังใจอย่างนี้ได้  ปีติจะขึ้นจนเต็มที่เอง แล้วก็จะเลิก
 
 บางทีตัวเราพองขึ้นเหมือนกับเราเป็นลูกโป่ง  บางทีระเบิดตูมกลายเป็นฝุ่นไปเลยก็มี  บางทีก็รู้สึกเป็นรูรั่ว มีอะไรไหลออกมาซู่ซ่าไปหมด
 
 เรามีหน้าที่กำหนดรู้เฉย ๆ จะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่ถ้าไปอยากให้เป็น อยากให้หาย เมื่อไรจะเลิกเสียที ไปคอยตามดูอยู่  ก็จะติดอยู่แค่นั้น
 
 ถาม : ไปเพ่งไปกำหนดตามจี้อยู่ถึง ๖ - ๗ เดือน  หรืออยู่เป็นปี  อย่างไรครับ ?
 ตอบ :  แบบนั้นก็จะอยู่ไปจนชั่วฟ้าดินสลาย
 
 ถาม :  อย่างนี้จะเกี่ยวกับการพัฒนาหรือเปล่า ?
 ตอบ :  เกี่ยวแน่ เพราะเราข้ามไม่ได้สักที ความก้าวหน้ากว่านั้นก็ไม่มี แต่ถ้าเราไม่ให้ความสนใจ พักเดียวก็ไปแล้ว
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-09-2010 เมื่อ 05:22
 |