| 
				  
 
			
			หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า พระไตรปิฎกฉบับที่เชื่อถือได้มากที่สุด ก็คือฉบับที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชพระราชทานให้ออกญาโกษาปาน นำไปถวายพระเจ้าหลุยส์ที่  ๑๔   ฉบับนั้นยังไม่เพี้ยน   
 มารุ่นหลังความหมายเริ่มเพี้ยนเยอะ เอาแค่พระสูตรแรกในทีฆนิกาย สุตตันตปิฎก   เปิดพระไตรปิฎกขึ้นมา ถ้าถึงสุตตันตปิฎกก็จะเจอเลย  พระสูตรแรกคือ พรหมชาลสูตร
 
 พรัหมะ แปลว่า ผู้ประเสริฐ , ผู้เป็นใหญ่  ชาละ คือตาข่าย  เขาตีความหมายว่า พระสูตรแห่งข่ายคือพระญาณอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า  อยู่ในลักษณะยกย่องว่าพระพุทธเจ้ามีข่ายคือพระญาณอันประเสริฐ จึงสามารถรู้ลัทธิต่าง ๆ ของศาสดาอื่น ๆ ได้ถึง  ๖๒  ลัทธิด้วยกัน
 
 แต่ความจริงความหมายนี้ผิด  คำว่าพรหมชาละตัวนี้แปลว่า ตาข่ายดักพรหม  ก็คือ บรรดาทิฐิทั้ง  ๖๒ ลัทธิไม่มีใครหลุดพ้นไปจากพรหมหรอก  ติดอยู่แค่นั้นแหละ  ไม่เกินนั้นเด็ดขาด
 
 ถ้าตีความผิดไปเรื่อย ๆ ต่อไปความหมายก็จะเพี้ยนไปด้วย เพราะฉะนั้น..ภาษาบาลีถึงแม้ว่าจะดี เพราะเป็นภาษาที่ตายไปแล้ว  ความหมายไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนแปลว่าเข้าถึงแค่ไหน
 
 โดยเฉพาะในเรื่องของอารมณ์ธรรมะจริง ๆ แล้ว ไม่สามารถบันทึกเป็นตัวหนังสือได้  เพราะว่าอารมณ์ธรรมจริง ๆ เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน  ละเอียดเกินกว่าคำพูดหรือหนังสือจะบันทึกไว้ได้
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2010 เมื่อ 02:38
 |