*ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปสักการะ ไปสวดพระพุทธมนต์อยู่หลายครั้ง พร้อมทั้งขึ้นไปนั่งปฏิบัติธรรมเมื่อมีเวลาว่าง ส่วนใหญ่จะเป็นวันเสาร์ วันอาทิตย์ ข้าพเจ้าจะขึ้นไปนั่งอยู่บนนั้นเกือบทั้งวัน ขึ้นเช้าลงมาเย็น จิตสงบดีไม่มีอะไรมารบกวน คนทั่วไปก็ไม่ค่อยขึ้น ส่วนใหญ่จะขึ้นเฉพาะมีเทศกาลเท่านั้น*
อยู่มาวันหนึ่งได้เจริญภาวนาตามปกติ แล้วออกมานั่งพักผ่อนอยู่ที่ปากถ้ำ เมื่อหายเมื่อยแล้วก็จะได้ปฏิบัติต่อ ขณะนั้นมีชายรูปหนึ่งร่างสูงใหญ่แต่งตัวแบบกษัตริย์มาจากไหนไม่รู้!!! เดินมาถามข้าพเจ้าว่า มาทำไม? ข้าพเจ้าตอบว่า มาปฏิบัติธรรม แล้วท่านมาจากไหน? แต่งตัวแปลก ๆ มาอย่างไร? ไม่ทันเห็น ชายผู้นั้นตอบว่า อยู่ที่นี่แหละ อยู่ในเมืองลับแล ข้าพเจ้าเป็นเจ้าเมืองชื่อสิงหล ออกมาดูว่าท่านอยากได้อะไร? จะได้หามาให้ เห็นว่าเป็นคนดี เขาชมเชย ข้าพเจ้าได้ตอบไปว่า ไม่เอาอะไรทั้งนั้น มาหาความสงบ ไม่ปรารถนาอย่างอื่น ขอจับมือหน่อยได้ไหม? เขายื่นมือมาให้จับ จับดูก็เป็นเนื้อหนังอย่างเรา ๆ นี่เอง เราไม่ได้ตาฝาดไปแน่ คิดอยู่ในใจ
เจ้าเมืองลับแลได้ถามข้าพเจ้าว่า อยากไปเที่ยวเมืองลับแลไหม? เขาชี้ไปที่ผนังถ้ำอยู่ด้านปลายพระบาทของพระพุทธรูป เห็นแต่หินผนังถ้ำ จึงบอกว่าไม่เห็น เขาบอกว่า อยากเข้าไปไหม? อยากได้อะไร? สมบัติมากล้นเหลือ เอาเท่าไหร่ก็ไม่หมด จึงตอบไปว่า อยากเข้าไป แต่ไม่เอาอะไร อยากเห็น แต่กลัวออกมาไม่ได้ เขาตอบว่า เข้าได้ ก็ต้องออกได้ ไม่ต้องกลัวจะพามาส่ง ถ้าจะเข้าไปก็จับมือข้าพเจ้า จะพาไปดู จะได้รู้เห็นเป็นบุญ ตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง ใจหนึ่งก็อยากเข้าไป ใจหนึ่งก็กลัวออกมาไม่ได้ กลัว ๆ กล้า ๆ ในที่สุดจึงตัดสินใจ เข้าก็เข้า เลยเอามือจับมือเจ้าเมืองลับแล จับไว้ที่ข้อมือ เขาพาเดินไปที่ผนังถ้ำ แปลก !!! ผนังหินแท้ ๆ แต่เดินผ่านเข้าไปได้ พอผ่านเข้าไปหันกลับมาดู ก็เป็นหินเหมือนเดิม เหมือนมิติซ้อนมิติอย่างไรก็อย่างนั้น
|