
09-09-2010, 09:14
|
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
|
|
หากจิตของเรายังถูกห่อหุ้มด้วยกิเลส ย่อมจะค้นพบความผิดในจิตของตัวเองได้ยากเพราะจิตไม่อิสระ พลังจิตก็จะเสื่อมพลังอำนาจ พลังอำนาจจิตก็จะถูกขวางกั้น เหมือนเมฆที่บดบังดวงจันทร์ แสงจันทร์ก็ไม่ส่องหล้า
การสร้างพลังจิตนั้นต้องสร้างภาวะจิต ให้จิตอิสระจากพันธนาการของกิเลสตัณหา สร้างองค์ฌานให้เกิดองค์ฌานอันบริสุทธิ์ จนจิตนั้นพ้นจากกามที่มาห่อหุ้ม *ต้องสำรอกกิเลสออกจากจิตจนหมดสิ้น หมดจดอย่างแท้จริง เรื่องฌานนั้นข้าพเจ้าได้เขียนไว้ในวิธีเจริญฌานไว้แล้ว ซึ่งเขียนเป็นโครงสร้างง่าย ๆ อ่านง่าย ๆ ปฏิบัติได้ก็จะเกิดองค์ฌานในจิต แล้วทรงฌานให้ทรงอยู่โดยการสร้างวสีฌาน*
ในพุทธศักราช ๒๕๓๐ ข้าพเจ้าถูกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เจริญจิตภาวนาจนสามารถใช้พลังจิตรักษาโรคร้ายต่าง ๆ ได้ โรคอะไรก็หายโดยเฉพาะโรคร้ายแรงอย่างเช่น มะเร็งต่าง ๆ ที่หมอก็รักษาไม่หาย ช่วงนั้นมีคนป่วยมากมายมารักษาจนเกือบไม่มีเวลาพักผ่อน จะทำการรักษาตอนกลางคืนเพราะไม่ให้เสียเวลาราชการ สนุกมาก ภูมิใจมากที่ช่วยเขาได้และก็ไม่ได้เอาอะไรใคร ทั้งยังต้องเลี้ยงอาหารเขาด้วย เงินเดือนไม่เหลือเลย ไม่พอใช้ต้องกู้มาใช้
ที่เล่าเรื่องนี้ เพื่อให้รู้ว่าจิตนั้นมีพลังอำนาจเหนือเหตุผลหากกำกับได้ แต่ขอเรียนว่าขณะนี้ไม่ได้รักษาให้ใคร เพราะผลของการกระทำครั้งนั้น มีผลกระทบต่อสุขภาพของข้าพเจ้าจนถึงปัจจุบันนี้ ทำให้สุขภาพของข้าพเจ้าทรุดโทรม เพราะไปทำผิดกฎแห่งกรรมเข้า พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เรื่องกฎแห่งกรรมว่า บุคคลใดทำกรรมนั้นไม่ให้ศักดิ์สิทธิ์ บุคคลนั้นจะต้องชดใช้กรรมนั้น เช่นกัน
|