| 
				  
 
			
			"อาตมาถามพวกเขาว่า ลำบากขนาดนี้แล้วยังมาเมืองไทยทำไม  เขาบอกว่า นี่ยังดี..เขาอยู่เมืองไทย เขาทำแบบนี้เขายังเหลือเป็นครึ่ง ๆ แต่เขาอยู่พม่า ถ้าทหารเอานี่หมดเลย ไม่เหลืออะไรเลย  ทหารเขาไม่สนใจว่าคุณจะอยู่หรือจะตาย  รู้แต่ว่าเขาจะเอาเขาจะต้องได้  
 อาตมายังชื่นชมว่าหมู่บ้านหนองบัวมีการจัดการที่ดีมาก  บ้านหนองบัวเขาสละพื้นที่ส่วนกลางประมาณ  ๓๐  ไร่ ปลูกข้าวให้ทหารโดยเฉพาะ ถึงเวลาคนก็ไปช่วย ๆ กัน  พอทหารเขามาก็เอาข้าวส่วนกลางให้เขาไป เรื่องก็จบ
 
 แต่ที่หมู่บ้านอื่นเขาไม่มีระบบการจัดการอย่างนี้  พอทหารไปไม่มีใครรวบรวมให้ เขาก็ไปค้นเอาเอง  ไปซุกไปซ่อนอยู่ในโอ่งในไหก็เอาหมด  ทั้งสามท่านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเราโชคดีที่เกิดเป็นคนไทย  แล้วพวกเรารู้สึกโชคดีกันบ้างหรือไม่ ?
 
 อยู่บ้านเราทุกข์ยากขนาดไหนก็ยังพอไปได้ แต่อยู่บ้านเขาทุกข์ยากนี่หาทางออกไม่ได้  เขาก็พยายามดิ้นรนสู้กันไป โดยเฉพาะว่าที่อาตมาเขียนลงหนังสือ  อ่านแล้วคิดบ้างไหม ว่าทำไมคนพม่าจึงต้องกินข้าวสองมื้อ เพราะเขาไม่มีจะกิน เขากินมื้อสาย ๆ  สิบโมงถึงสิบเอ็ดโมง แล้วไปกินอีกทีตอนเย็น
 
 คนเราพอสบายแล้ว กำลังใจในการต่อสู้ฟันฝ่าจะลดน้อย พระที่ออกธุดงค์ก็เพื่อให้เคยชินกับความยากลำบาก  ถ้าหากว่าความลำบากทางกายสามารถทนได้  ความลำบากทางใจก็ไม่เท่าไร  เพราะว่ากายกับใจเกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2010 เมื่อ 18:42
 |