| 
				  
 
			
			"พอมาถึงท่านมังคละปิยะ สาหัสกว่าท่านจารึกอีก ท่านเกิดอยู่บังคลาเทศ มีประชากร ๑๖๐ ล้านคน  
 ท่านเกิดมาท่ามกลางคนถือศาสนาอิสลาม เป็นชาวเผ่าบารัวที่นับถือศาสนาพุทธอยู่ในเมืองจิตตะกอง  มีประชาชนในจิตตะกองที่นับถือศาสนาพุทธอยู่ประมาณห้าแสนคน  เราได้ยินก็คิดว่าเยอะ  แต่ท่านบอกว่าลองเปรียบเทียบตัวเลขกับ  ๑๖๐ ล้านคนดูสิ จะเหลือประมาณ ๐.๐๗ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
 
 ตอนที่ซักถามเขาก็เลยถามว่า คุณอยู่ท่ามกลางอิสลามย่อมโดนเขารังแก  และปฏิบัติอย่างอยุติธรรมอยู่แล้ว คุณมีหลักเกณฑ์อย่างไรที่จะไปใช้รับมือพวกเขา ?   ท่านบอกว่าอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั่นแหละ ที่ช่วยให้รอดมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านใช้คำว่า forget &  forgive
 
 สุดยอดจริง ๆ เลย  ใครเขาร้ายกาจกับเราอย่างไร ให้ลืมซะแล้วให้อภัย  เขาบอกว่าเพราะเหตุนี้แหละที่ทำให้พวกเขาไม่ลำบากมากนัก   คือ ยอมทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะรังแกอย่างไรก็ให้อภัย ในเมื่อเขารังแกจนพอใจก็เลิกไปเอง
 
 เขาบอกว่าพ่อเขาเป็นหัวหน้าเผ่าบารัว จึงมีฐานะดีกว่าเพื่อนบ้าน  พอเขาจบมัธยมแล้วก็เลยส่งไปเรียนต่อที่ศรีลังกา  เขาบอกว่าเป็นภาพที่ตัดกันอย่างชัดเจนที่สุด  อย่างชนิดที่ไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย
 
 คุณเป็นประชากรแค่  ๐.๐๗ เปอร์เซ็นต์ในประเทศอิสลาม  ๑๖๐ ล้านคน  อิสลามครอบงำไปทุกซอกทุกมุม แต่พอคุณไปอยู่ศรีลังกา  ประชากร  ๗๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ที่นั่นเป็นพุทธศาสนิกชน และพระมีอำนาจถึงขนาดเป็นรัฐมนตรี  เป็น ส.ส. เป็นผู้นำในชุมชน  ไม่ว่าไปทางไหนก็มีแต่คนยกย่อง"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2010 เมื่อ 11:55
 |