ชื่อกระทู้: อัศจรรย์โลกใบนี้
ดูแบบคำตอบเดียว
  #109  
เก่า 06-09-2010, 08:24
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,951 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ข้าพเจ้าได้พบท่านอย่างไม่รู้ตัว คนอยากพบก็ไม่ได้พบ เดินทางไปแสวงหาก็ไม่พบ ส่วนข้าพเจ้าได้พบแต่ไม่รู้ อยู่ด้วยกันตั้ง ๑๑ วัน หลวงปู่ใช้อุบายอันแนบเนียนอบรมจิตของข้าพเจ้า สอนธรรม สอนปฏิบัติ เป็นอาจารย์ทางกรรมฐานต่อจากหลวงพ่อริม รัตนมุนี และตรงตามที่หลวงพ่อท่านบอกไว้ก่อนมรณภาพ ตอนนั้นเราไม่เอาใจใส่จดจำเองเท่านั้น

สาย ๆ ก็เดินลงจากเขา ข้าพเจ้าคิดว่าขาลงเขาคงจะง่าย แต่ความคิดนั้นผิดถนัด ลงเขาช่วงแรกสบายมาก แต่พอเดินไปได้ไม่ไกลนัก เริ่มปรากฏความไม่จริงตามที่ได้คิดไว้ มันเริ่มเมื่อย กำลังขาเริ่มอ่อนเพราะต้องพยุงตัวลงจากที่สูงชันตามขั้นบันไดแรงกระแทกทำให้เข่าเริ่มเจ็บ ขาเริ่มสั่น มันเพิ่มเป็นทวีคูณเกือบลงไม่ถึงตีนเขา มันเจ็บระบมไปหมดโดยเฉพาะตรงหัวเข่า ถึงตีนเขาหลวงปู่ให้ศีลแล้วเดินหายไป เพื่อลดความข้องใจของท่านที่ได้อ่าน ท่านอาจถามอยู่ในใจว่า มีใครไปด้วย ไปรู้ ไปเห็นด้วย ขอเรียนว่าไม่มี ท่านไม่ให้ใครติดตาม

ข้อเขียน ได้ตัดตอนในส่วนที่ไม่จำเป็นอีกมากมาย ดังได้บอกกล่าวไว้แล้วว่ามีแต่ขาด ไม่เกินจากที่ได้พบเห็น จะเห็นได้ว่าอุบายธรรมของท่านให้รู้ด้วยตนเองเพื่อสร้างกำลังใจให้ปฏิบัติ การเข้าปฏิบัติธรรมได้นั้นต้องมีศรัทธา มีวิริยะ มีสติ มีสมาธิ มีสัมปชัญญะ จึงจะนำความสำเร็จมาให้ ที่เรียกว่าต้องมีพละห้าประการนั่นเอง

จากนั้นมาข้าพเจ้าเอาจริงเอาจังกับการเจริญกรรมฐาน ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ความเข้าใจ ศึกษาจิตของตนเองตามคำบอกกล่าวของหลวงปู่และหลวงพ่อริม รัตนมุนี ต่อสู้กับอำนาจความเกียจคร้าน ความเจ็บปวดเมื่อยล้า ความง่วงเหงาหาวนอน ชนะบ้างแพ้บ้าง เห็นจิตของตนเองตะคอกตัวเองให้เลิกทำบ้าง ให้ไปหลับนอนยกเหตุผลต่าง ๆ นานามาบอกให้เลิก ให้อยู่สบาย ๆ ไม่เอา จะเห็นว่ากิเลสมารมาทำลายล้างความวิริยะของเรา ทำลายขันติ ทำลายความขยันมุ่งมั่นในความเพียรของเราให้หมดสิ้น เราจึงต้องสร้างขันติธรรมมาตั้งรับต่อสู้อยู่ตลอดเวลา
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 86 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา