อบรมที่เกาะพระฤๅษี วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๐
ถ้าหากว่าพระเขากราบกัน เณรหรือฆราวาสอย่ากราบพร้อมพระ เพราะว่าที่รับไหว้รับกราบเณรมีแต่อาตมาคนเดียว คนอื่นเขาถือว่าศีลไม่เท่ากัน กราบพร้อมกันเท่ากับว่าให้พระรับไหว้ ถ้าเป็นที่อื่นเขาจะ
"โบ๊ะ" ให้ ต้องระวังไว้นิดหนึ่ง
จวนจะเข้าพรรษาแล้ว ใครอยู่ต่อก็แปลว่าเอาจริงละนะ ช่วงนี้เรื่องการศึกษาของคณะสงฆ์ มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ช่วงประมาณ ๓ ปีที่ผ่านมานี้เปลี่ยนเร็วจริง ๆ
เริ่มจากการที่เขาปรับวุฒิพระสังฆาธิการ โดยการให้ไปเรียน
หลักสูตร ป.บส. (ประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์) ใครจบนักธรรมเอกแล้ว ปีเดียวได้วุฒิ ม. ๖ เลย
ของเณรก็เลยสบาย เพราะเรียนจบนักธรรมเอกแล้ว เรียนปีเดียวก็จบ ม. ๖ ง่ายไหม ? แล้วยังมีการปรับให้สอบนักธรรมตรีในพรรษา เพราะส่วนใหญ่ที่ผ่านมา ออกพรรษาแล้วจะสึกกัน ที่ลงชื่อไว้ว่าจะสอบนักธรรมตรีจึงไม่ได้สอบ
โดยส่วนใหญ่จะสอบนวกะสองอาทิตย์ก่อนออกพรรษา ก็ได้ประกาศนียบัตรชั้นนวกภูมิ ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้งานได้ เพราะว่าถือว่าเป็นการสอบภายใน ไม่ได้การรับรองจากทางการ แต่ถ้านักธรรมตรีนี่ได้รับการรับรอง เอาไปผ่อนผันการเกณฑ์ทหารได้ด้วย
แต่ว่าเดี๋ยวจะไปโดนแบบท่านมหาประโยค ๙ ไปขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เอาวุฒิบัตรประโยค ๙ ไป เขาบอกว่า
“ไม่ได้..ต้องเอานักธรรมตรีเท่านั้น..!”
เปรียญธรรม ๙ ประโยคนี่ เลยนักธรรมตรีไปหลายสิบกิโล แต่สัสดีเขายืนยันว่าระเบียบบอกว่าต้องเอานักธรรมตรีแค่นั้น แล้วกว่าจะสอบประโยค ๙ ได้ ไม่รู้ว่าประกาศนียบัตรนักธรรมตรีหายไปแล้วหรือยัง ? ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่ต้องผ่อนผันกันพอดี
เขาจึงให้สอบในพรรษา แปลว่าเวลาดูหนังสือเราน้อยลง เพราะว่าหลาย ๆ สำนัก ถ้าไม่ใช่สำนักเรียนใหญ่จริง ๆ ป่านนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย แต่ว่านักธรรมโท นักธรรมเอก เขาถือว่า คนที่จะสอบคือคนที่ตั้งใจอยู่ ก็ไปสอบวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ เหมือนเดิม
พวกวันสอบของพระนี้ ขึ้นแรมจะตายตัว ทุกปีจะตรงกับวันเดิม แต่ว่าไม่ตรงกับวันที่เดิม เพราะว่าเขานับเป็นขึ้นแรมกัน