มีขบวนเรือวิ่งสวนมาหลายลำ ขนสินค้ามาเพียบ คงจะไปชองโส่งทั้งนั้น ดูจากความเร็วแล้ว ไม่แคล้วต้องค้างกลางทางอีกคืน เมื่อสาว ๆ กลับมาครบ เรือของเราก็ตะบึงต่อไป แสงแดดไล่หมอกจางหายไปตามเวลาที่สายขึ้น แต่ดวงตะวันยังไม่สามารถทะลุม่านหมอกออกมาได้ ก็ดีไปอย่าง ช่วยให้ไม่ร้อนมาก...
มีทหารโบกมือเรียกอยู่บนตลิ่ง ไม่ใช่ด่านตรวจหรอก เขาขออาศัยเรือไปเมืองเวสาลี อาตมาขี้เกียจมีปัญหากับพวกทหาร จึงภาวนาคาถาตวาดป่าหิมพานต์ข่มเอาไว้ก่อน แต่กำลังใจแรงไปหรืออย่างไรก็ไม่รู้ พอดีจังหวะเขาก้าวลงเรือด้วย เลยร่วงโครมลงมาบนตักอาตมาพอดี..!

ถ้าเป็นทหารหญิงแบบนี้หล่นใส่ตักจะไม่ว่าสักคำ ที่ไหนได้..!
ถ้าเป็นสาว ๆ ร่วงลงมาบนตักจะไม่ว่าสักคำ นี่ดันเป็นทหารตัวเล็กกว่าควายนิดเดียว เล่นเอาอาตมาจุกแอ้ดไปเลย แต่ก็ได้ผลตามที่ต้องการ เพราะพี่ทหารแกอายพระ จึงนั่งเงียบไม่ยอมแม้แต่จะหันมาดู นอกจากนาน ๆ จะควักบุหรี่ขึ้นมาสูบ แล้วพ่นควันมาเผื่อแผ่แก่อาตมาซะเต็มที่...
อาตมานั่งยิ้มทั้งกาย ยิ้มทั้งใจ ไม่ได้วิตกทุกข์ร้อนอะไรเลย จิตใจสงบเยือกเย็นมาก ไม่ได้เห็นเขาเป็นศัตรูแม้แต่น้อย นอกจากเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เช่นเดียวกันกับฝูงวัวที่ลงกินน้ำ ฝูงนกยางโทนน้อยที่บินเรียงแถวออกหากิน รวมทั้งคนตกกุ้งและยกยอที่อยู่บนชายฝั่งตลอดสองข้างลำน้ำ...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-09-2010 เมื่อ 10:17
|