เพิ่งรู้ว่านายท้ายของเราพาเมียมาด้วย ก็คือสาวที่นั่งเป็นแม่ย่านางที่หัวเรือนั่นแหละ แต่ตอนนี้แม่ย่านางหน้าหงิกเป็นม้าหมากรุก เพราะเจ้าผัวตัวดีพาอดมาสองมื้อแล้ว เลี้ยงเมียแบบนี้ประหยัดดีเหมือนกัน เล่นมื้อเดียวตอนเย็นเป็นอันจบ แต่คนอดมาทั้งวันนี่มันกินน่าดูชมเชียวละ อาตมากับท่านนาวินแบกย่ามเดินแยกจากแพที่พลุกพล่าน ไปยังแพที่พังไปเกือบครึ่งแทบไม่มีหลังคา มันว่างดีไม่มีใครมาแย่ง...
แพพักที่ค่อนข้างจะแออัดยัดเยียด ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
เดินแบบระมัดระวังสุดขีด แพที่เขาทิ้งแล้วแบบนี้มันผุไปซะทุกจุด ผิดที่ผิดทางนิดเดียวเป็นหักกร๊อบทันที เลือกจนได้ที่เหมาะกับตนเอง งัดเอาผ้าพลาสติกมาปูเป็นที่นอน ท่านนาวินแบกกลดมาด้วย จัดการแขวนกับขื่อแล้วปล้ำกับมุ้งกลดที่ใส่ยากอยู่สักหน่อย เพราะลมแม่น้ำที่แรงเอาเรื่อง คอยตีจนเกือบจะใส่มุ้งกลดไม่สำเร็จ อาตมาที่ถนัดในการคลุมโปง ไม่ต้องเดือดร้อนไปกับท่านด้วย...
จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวซะหน่อย จะหมกไม่แตะน้ำเลยก็เกรงใจตัวเอง เรายังทนเหม็นตัวเองไม่ไหว ขืนไปนั่งรวมกับเขาอาจจะถูกถีบลงน้ำไม่รู้ตัว จากนั้นเอาไฟฉายมาวางพร้อมไว้ข้างตัว สวดมนต์แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ แล้วเอาจีวรตีโปงหนียุงที่เริ่มมากขึ้น ส่งใจไปกราบพระบนนิพพาน ภาวนาไม่กี่ทีก็หลับไปในเวลาอันรวดเร็ว...
คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2010 เมื่อ 02:50
|