แก่งแล้วแก่งเล่าที่เรือของเรากระโจนผ่านอย่างเฉียดฉิว น้ำแรงจนบังคับเรือได้ยาก มีชาวบ้านมาวางข่ายดักปลาบ้าง วางลอบยืนบ้าง ลอบของเขาสานง่าย ๆ และหวังเอาปลาใหญ่กันจริง ๆ เพราะตาลอบห่างจนมือลอดได้สบาย บางรายขึ้นไปยงโย่ยงหยกบนตอไม้กลางน้ำ ลงเบ็ดตกปลาอย่างแข็งขัน บางคนได้ปลากระสูบตัวยาวเป็นเมตร แทบจะถูกปลามันลากลงน้ำไปก็มี..!
เฮ้ย..! นายท้ายของเราเบาเรือไม่ทัน พอเข้าโค้งเลยเบียดเกยตลิ่งขึ้นไปเกือบครึ่งลำ ยังดีที่เป็นเรือใหญ่สี่สูบ จึงดิ้นสะบัดหลุดออกมาได้ ถ้าเป็นเครื่องบิ๊ก ๑๖ แรง แบบที่อาตมาใช้ล่าเรือหาปลาอยู่หน้าวัดท่าซุง รับรองคว่ำไปแล้ว โค้งถัดไปตอไม้ใหญ่โผล่พ้นน้ำมาเป็นศอก ยังดีที่น้ำลดลงมากแล้ว หน้าน้ำมองไม่เห็น เรือเกยแตกเป็นประจำ...
เรือบรรทุกซุงเครื่องดับเพราะแบตเตอรี่หมด ต้องขอความช่วยเหลือจากเรือของเรา
นกกระเต็นอกขาวพุ่งดิ่งลงน้ำกระจาย พอเงยหัวขึ้นก็มีปลาติดปากมาด้วย กระพือปีกพาร่างเหินขึ้นไปบนยอดไม้ สะบัดหัวฟาดปลากับกิ่งไม้สองสามที พอปลานิ่งสนิทก็โยนขึ้นกลางอากาศ อ้าปากรับทางหัว กลืนเอื๊อกลงคอ ขยับให้ปลาไหลลงท้องเรียบร้อยแล้วบินมาเกาะที่จุดล่าตามเดิม สายตาสอดส่ายหาเหยื่อตัวต่อไป เรือเฉียดเข้าใกล้รีบผวาบินหนี ส่งเสียงร้องแกร๊ก ๆ ไปตลอดทาง...
เรือลำที่ซุกตัวอยู่ใต้ต้นไม้ส่งสัญญาณมือขอความช่วยเหลือ อ่องโมบังคับเรือเข้าไปใกล้ เป็นเรือขนซุงมาเต็มลำ เครื่องดับไปต่อไม่ได้ น้ำเข้าเรือไปครึ่งค่อนลำ ลูกเรือกำลังวิดกันอุตลุด พอเรือเทียบลำกันได้ เจ้าของเรือซุงจัดการเอาสายพ่วงมาต่อ ที่แท้เรือของเขาไฟหมด สตาร์ทไม่ได้ พ่วงสตาร์ทชึ่งเดียวดังกระหึ่ม บอกขอบใจแล้วพาเรือทวนน้ำต่อไป...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-08-2010 เมื่อ 03:00
|