"พระเจ้าปายาสิเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก เช่น ตายไปแล้วมีนรกมีสวรรค์จริงหรือไม่ ลองไปอ่านดูในปายาสิราชัญญสูตร ในพระสุตตตันตปิฎก
พระเจ้าปายาสิบอกว่าไม่เชื่อว่านรกมีจริง เพราะถ้าคนตายไปแล้วไปนรกจริง ให้กลับมาบอกด้วย รอคนแล้วคนเล่า ก็ไม่เห็นมีใครกลับมาบอกท่าน
พระกุมารกัสสปะบอกว่า "ดูก่อน..มหาบพิตร ถ้าหากนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ พระองค์ท่านจับได้แล้ว ตัดสินประหารแล้ว ถ้าเขาขออนุญาตกลับไปบอกญาติหรือสานุศิษย์ต่าง ๆ แล้วจะกลับมาให้ประหาร พระองค์ท่านจะยอมปล่อยไปหรือไม่ ?" พระเจ้าปายาสิก็ตรัสว่า "ปล่อยไปไม่ได้หรอก มีแต่จะเร่งประหารเสียก่อน.."
พระกุมารกัสสปะกล่าวว่า "ลักษณะเดียวกัน ในนรกเขาลงโทษหนักกว่านี้อีก ใครเขาจะปล่อยออกมาให้มาบอกข่าวได้.." แล้วพระเจ้าปายาสิจึงกล่าวถึงพวกที่ไปสวรรค์ ไปสบายแล้ว "เราบอกแล้วว่าใครไปสวรรค์ให้กลับมาบอกข่าว แต่ก็ไม่เห็นมีใครกลับมาบอกเลยสักคน.."
พระกุมารกัสสปะก็เปรียบเทียบว่า "เหมือนกับบุรุษตกลงไปในหลุมคูถ (หลุมอุจจาระ) พระองค์สั่งให้ราชบุรุษเอาตัวขึ้นมา อาบน้ำให้ตัวสะอาดเอี่ยม เปลี่ยนผ้าใหม่ให้ ประด้วยแป้งหอม น้ำมันหอม เอาพวงมาลัยสวยสดงดงามคล้องคอ แล้วบอกให้กระโดดลงไปในหลุมคูถตามเดิม จะมีใครกระโดดลงไปไหม ? ลักษณะเดียวกัน คนไปสวรรค์แล้ว เขามองเห็นว่าโลกนี้น่ารังเกียจประดุจหลุมอุจจาระ จึงไม่มีใครคิดที่จะย้อนกลับมา"
ท่านค่อย ๆ เปรียบทีละอย่าง..ทีละอย่าง ลองไปหาอ่านดู สำนวนโวหารท่านสุดยอด ในบาลีว่ากุมาระกัสสโปเถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก แปลว่า พระกุมารกัสสปะ ผู้เป็นใหญ่ในทางใช้ถ้อยคำอันวิจิตร คือ สามารถเปรียบเทียบได้สุดยอดมาก"
ถาม : มเหสีแปลว่าอะไร ?
ตอบ : แปลว่า เป็นใหญ่ เพราะฉะนั้น..ผู้หญิงต้องเป็นใหญ่กว่า โบราณเขารู้ดี..! (หัวเราะ)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2019 เมื่อ 20:54
|