ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 02-08-2010, 16:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะให้มาอยู่กับสติเฉพาะหน้า หนูรู้สึกว่ายากมาก เพราะว่าบางครั้งจะต้องใช้กำลังสมาธิสูงสำหรับข่มไว้ เรารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่ากรรมฐานกองไหน หรือวิปัสสนาญาณอย่างไร ก็ต้องมาลงตรงนี้ คืออารมณ์เฉพาะหน้าจริง ๆ

พอรู้ว่าอะไรจะเข้ามา ก็จะเป็นการตัดไปเลย ตัด..ตัด..ตัด ยิ่งนานเข้า สังเกตว่ายิ่งตัดบ่อย ๆ ก็จะตัดเร็วขึ้น ท้ายสุดแล้วก็จะไปหยุดกิเลสตรงนั้น จะไปดับกิเลสตรงนั้น หยุดการปรุงแต่งของกิเลส
ตอบ : ถูกต้องตรงเป๊ะเลย ต้องเป็นอย่างนั้นแหละ

ถาม : แต่ก็ยากเพราะจิตมีการดิ้นรน มีการส่าย
ตอบ : พอเผลอก็หลุดจากตรงนั้นไปด้วย

ถาม : ใช่ค่ะ เรารู้ว่าท้ายสุดแล้วการปฏิบัติจะต้องไปลงตรงนี้ พอเรารู้จิตก็ยิ่งดิ้นไปใหญ่
ตอบ : ไม่เป็นไร ถ้าตอนไหนที่กำลังของเราดีกว่าก็ไปจ่ออยู่ตรงนั้น ทำแต้มของเราไปเรื่อย ถ้าตอนไหนความฟุ้งซ่านมีกำลังกว่า ดิ้นไปทางอื่นได้ ก็ปล่อยไป

อย่างน้อยเราชนะสัก ๕ : ๔ ก็ยังดี เพราะอย่างไรเราก็ชนะ ดูอย่างสเปนชนะ ๑ :๐ มาเกือบทุกนัด เขาก็ยังได้แชมป์ จะเห็นว่าสเปนไม่ได้เอาแต้มเยอะเลย


ถาม : เรารู้กระทั่งว่า ถ้าเราจะคิดต่อหรือฟุ้งซ่านต่อไป ผลจะไปเกิดเป็นอะไร และรู้ว่าการคิดนั้นเกิดจากอะไร จะรู้เหตุรู้ผลไปเลย แล้วก็จะตัดไปเลย
ตอบ : นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องการ เพราะว่าทันทีที่เราคิด เราจะรู้ว่าคิดด้านนี้ดีอย่างไร แล้วคิดด้านนี้เป็นโทษอย่างไร เห็นโทษแล้วเราก็จะสละส่วนที่เป็นโทษ แล้วเก็บแต่ในส่วนที่เป็นประโยชน์เท่านั้น อาตมาว่าพูดเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วนี่หว่า นี่เราเพิ่งจะคลำเจอ..!

ถาม : หนูเห็นว่าบางครั้งเวลามองโลก ก็จะพลิกมุมไปเลย บางคนมองเห็นว่าสิ่งนี้เป็นโทษไร้สาระ แต่เราสามารถหยิบสิ่งนั้นเอามาเป็นสิ่งที่เป็นสาระ หรือเป็นประโยชน์ได้ หรือสิ่งที่คนอื่นเห็นเป็นสาระ....
ตอบ : เราก็เห็นโทษของสิ่งนั้นได้

ถาม : ใช่ค่ะ เหมือนกับคนที่หยิบสิ่งหนึ่งสิ่งใด จะเรียกว่าเป็นสิ่งสมมติมาพลิกให้เป็นอะไรก็ได้ แล้วแต่ที่เราต้องการ
ตอบ : เอ้า..สาธุ..!

ถาม : แต่ก็คิดได้พักเดียว
ตอบ : เอาน่า..อย่างน้อยก็มองเห็นแล้ว อย่างน้อยอาตมาก็จะได้รู้ว่าที่ทำมาไม่เสียเปล่า มีคนเห็นบ้างแล้ว

ถาม : บางครั้งหนูก็เห็นว่าไม่มีอะไรที่เป็นของเรา แม้กระทั่งจิตของตัวเอง หนูก็ยังเห็นละเอียดว่าไม่ใช่เรา แต่หนูก็เห็นอย่างนั้นแค่อาทิตย์เดียว
ตอบ : ได้ตั้งเยอะ ใหม่ ๆ อาตมาเห็นได้แค่แวบเดียว

ถาม : แล้วพอกำลังสมาธิเราลดลง ปัญญาเราก็ลดลงตาม
ตอบ : อย่างที่อาตมาบอกว่า คำตอบเกือบทุกอย่างอยู่ที่สมาธิ ปัญญาเป็นแค่ส่วนต่อท้ายเท่านั้น ถ้าคุณไม่แข็งแรงพอ คุณไม่สามารถจะหยิบอาวุธขึ้นมาได้หรอก แล้วก็ใช้การอะไรไม่ได้ รีบไปบรรเลงต่อ อย่างนี้ค่อยชื่นใจหน่อย

ย้อนกลับไปดูหนังสือกระโถนฯ เล่มเก่า ๆ ที่อาตมาพูดน่าจะเจอนะ บางเรื่องพูดมานานแล้ว เพียงแต่ว่าพูดไป ๆ เหมือนกับตักน้ำรดหัวตอ ถึงได้บอกว่า ไม่ได้ต้องการอะไรหรอก หัวตอไม่งอก ให้แค่เปียก ๆ ก็ยังดี นี่เห็นใบงอกขึ้นมาใบหนึ่งแล้ว ค่อยชื่นใจหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2019 เมื่อ 20:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา