"สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าทำเอง"
เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทยอยเกิดขึ้นตามสภาวธรรม ไม่ว่าจะเกิดกับตัวกระผมเองหรือสมาชิกในครอบครัว แต่สุดท้ายแล้วก็ยังประโยชน์แท้จริงให้เห็นเสมอ คุณยายของภรรยากระผม ท่านแทบไม่ทำบุญทำทานอะไรเลย รวมไปถึงคุณแม่ยายของกระผมด้วย และที่สำคัญ คุณแม่ของกระผมเองด้วย ถ้าไม่ถึงกับว่า
"ต้องบังคับ" กันจริง ๆ ทุกคนแทบจะไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เลย
แต่ก็เหมือนกับ
"พระท่านเมตตา" คุณยายของภรรยาท่านป่วย คุณตาของภรรยา ท่านเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดมะเร็งตับ คุณแม่ผมท่านก็ป่วย แต่ท่านดื้อเรื่องกินยาเอามาก ๆ ผมเองก็

ถึงขั้นที่ว่า
"เจ้อยากตาย" ฟุ้งไปบ้าง วางได้บ้างไปตามเรื่อง
มาคราวนี้คุณยายของภรรยากระผม ท่านฝันชนิดที่เรียกว่าท่าน กลัวขึ้นสมอง (กลัวตาย) ท่านเล่าว่า เมื่อคืนท่านฝันว่า "มีคนมากวักมือเรียกอยู่นอกบ้าน บอกให้ท่านออกมาคุยเรื่องหนี้สินที่ติดเขาเอาไว้ ให้มาคุยกันให้จบ ๆ กันไป ท่านก็ตอบไปว่า ท่านเองไม่เคยเป็นหนี้ใคร จึงไม่ยอมออกไป ส่วนทางโน้นก็โกรธมาก ดูน่ากลัว"
เห็นท่านซุบซิบ ๆ ปรึกษากันกับแม่ยายกระผม และคุณแม่ของกระผม แล้วทั้งสามท่านก็สุรปกันว่า เจ้ากรรมนายเวรคงจะมาทวง พร้อม ๆ กับแม่บ้านที่คุณแม่ผมจ้างมาทำงานบ้าน เขาเองออกแนวร่างทรง ก็ช่วยสรุปด้วยว่า เจ้ากรรมนายเวรมาทวงแถมยังบอกกับทุกคนว่า ในบรรดาคนป่วยทั้งสามคน เขาเองคิดว่า คุณยายท่านน่าเป็นห่วงที่สุด ให้ไปถามหลานเขยเอา เพราะเขารู้เรื่องนี้ดี
งานนี้ก็เข้าทางผม ก็เลยบอกกับทุกคนว่า ดีแล้วอย่างน้อยที่สุดเราจะได้รู้ตัว ยังมีเวลาที่จะได้ไปทำบุญ ไปปฏิบัติกัน ปกติผมชวนแต่ละคนก็อ้างโน่นอ้างนี่ บุญเท่านั้นแหละที่สำคัญขอให้เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย
พรุ่งนี้วันพระ ทุกคนก็ตกลงกันว่าจะไปทำบุญที่วัด ตอนเย็นก็จะไปร่วมตามประทีปบูชาพระรัตนตรัยและพระบรมสารีริกธาตุ ผมเองก็เรี่ยไรให้ร่วมบุญสร้างยอดฉัตรทองคำ ก็ถือว่างานนี้ก็ต้องประคับประคองกำลังใจกันไป ให้ตั้งมั่นอยู่ใน ทาน ศีล ภาวนา กันต่อไป ได้แค่นี้ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย