| 
				  
 
			
			ถาม : กรรมฐานสี่สิบกอง ที่เราเลือกมาปฏิบัติครั้งแรก ถ้าทำไป ๆ แล้วรู้สึกว่ายังไม่ไปไหน แล้วเปลี่ยนกองถือว่าเป็นการโลเลหรือเปล่าครับ ?ตอบ : ไม่ใช่โลเล  แต่จะเหมือนกับที่เคยเปรียบว่า ขุดบ่อแต่ไม่ได้น้ำ   สมมติมีน้ำอยู่ในระดับ  ๑๐ วา พอขุดไป ๆ ถึง  ๕ วา ไม่ถึงตาน้ำสักที เราก็ย้ายที่ไปขุดใหม่  เท่ากับเราเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
 
 ถาม : ถ้าเลือกมาสัก ๒ กองแล้วทำ
 ตอบ :  ๒  กองที่คุณเลือก หรือกองเดียวที่คุณเลือก  ให้เป็นอานาปานสติไว้ก่อน  ๑  กอง  ซึ่งกองอื่นเลือกอะไรก็แล้วแต่  ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออก  กรรมฐานทุกกองไปไม่รอด
 
 ถาม : แล้วถ้าวันหนึ่งจับภาพพระ  อีกวันหนึ่งจับกสิณ
 ตอบ : เจริญแน่..! ทำแบบนั้นอีกกี่ชาติก็ได้แค่ทำ..!
 
 ถาม : เปลี่ยนไปทุกวัน
 ตอบ : ชาติหน้าตอนเย็น ๆ อาจจะได้..!
 
 ถาม : ถ้าทำอย่างนี้ชาติหน้าตอนเย็น ๆ จะได้หรือครับ ?
 ตอบ : ถ้าวันนี้คุณจับกสิณ  แล้วคุณก็เลิก..ปล่อย   ถ้าสมาธิคลายตัวก็ไหลตามกิเลส   พอรุ่งขึ้นแทนที่คุณจะมาจับกสิณเพื่อว่ายทวนกิเลสต่อ    แต่คุณไปจับอีกกองหนึ่ง  แล้วคุณก็ปล่อยและก็ไหลตามไป  พออีกวันคุณก็กลับไปทำอีกกอง
 
 ลองนึกดูก็แล้วกัน  คนไหลตามกิเลสไปสองวัน แล้วว่ายกลับมา จะหาความก้าวหน้าได้อย่างไร ?   ขาดทุนสะสมไปเรื่อย รอวันล้มละลาย..!
 
 ถาม : แล้วถ้าทำทุกวัน อย่างละกองวันละชั่วโมงละครับ ?
 ตอบ :  ๒๔  ชั่วโมงยังไม่รอดเลย..!
 
 ตอนนี้ค่าแรง  ๒๕๐ บาท ก็ตีเสียว่าชั่วโมงหนึ่ง  ๑๐ บาท   สิบบาทพอกินไหม ?  กินซาละเปาลูกหนึ่งก็หมดเงินแล้ว
 
 เรื่องของการปฏิบัติ เลือกกรรมฐานกองใดกองหนึ่งแล้วทำให้ถึงที่สุดไปเลย   ถ้าหากถึงที่สุดแล้วกองอื่นจะเป็นของง่ายเพราะกำลังที่ใช้เท่ากัน  เปลี่ยนแค่วิธีการนิดเดียว  เพราะฉะนั้น..อย่าหลายใจ  กรรมฐานไม่ใช่วิชาทางโลก ที่จะได้สะสมหน่วยกิตได้  เขาต้องการความจดจ่อต่อเนื่องตลอด  คุณไปสะสมหน่วยกิตก็ได้เหมือนกัน   ได้แค่ในส่วนอานิสงส์ที่เป็นกุศลกรรม    แต่ความสำเร็จมาถึงยาก
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2010 เมื่อ 11:51
 |