| 
				  
 
			
			ถาม : ถ้าเป็นความจริง  ก็ไม่ต้องคิดให้มันเกิดขึ้นตอบ : นั่นเป็นไปโดยธรรมชาติ
 
 ถาม :  อย่างสมาธิที่ครูบาอาจารย์ท่านเอาพลังงานมาเสกพระ  ก็ไม่เห็นท่านจะต้องทำอะไรเลย  เพราะว่าประตูของท่านเปิดตรงนั้นเข้าไปได้
 ตอบ : ถูก..เพราะมีเป็นปกติอยู่แล้ว
 
 ถาม : พอท่านเข้าไป  ทุกอย่างก็มาของมันเอง  ถ้าเราฝึกปฏิบัติดี  ตาดี เราก็จะเห็นได้  พลังงานจะมาเป็นธรรมดา แล้วแต่กระแสที่สัมผัส เพราะพลังงานตรงนี้อยู่ในรูป  เวทนา  สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นเรื่องของใจล้วน ๆ
 ตอบ : ดูอย่างหลวงปู่สีท่านเสกพระ  โยมเขาสร้างพระเอาไปให้หลวงปู่สี  วัดถ้ำเขาบุนนาคเสก  ท่านเอามือตบกล่องสามที บอกว่า  "เอาไปใช้ได้แล้ว"  โยมเขาก็หงุดหงิด ไม่เห็นเสกอะไรเลย  ก็อุตส่าห์แบกไปถึงเชียงใหม่  เพื่อขอให้หลวงปู่แหวนช่วยเสกให้ต่อ
 
 หลวงปู่แหวนท่านว่า "เอามาทำไม ? เต็มหมดแล้ว..."   เขาก็บอกว่า "หลวงปู่สีท่านไม่ได้เสกอะไรเลย   ท่านเอามือตบสามทีเท่านั้น"  หลวงปู่แหวนบอกว่า "องค์นั้นตบสามทีดีกว่าฉันเสกสามเดือน..!"
 
 ทุกอย่างเหมือนกับว่ามีพร้อมสมบูรณ์อยู่แล้ว  เหมือนกับไฟเป็นหมื่น ๆ โวลต์เสียบปลั๊กรออยู่แล้ว  มาถึงก็จี้ได้เลย   แต่คนเขาไปติดรูปแบบกัน
 
 หรือไม่ก็อย่างหลวงปู่เนียม วัดน้อย  (อาจารย์ของหลวงปู่ปาน)  เจ๊กเขาถือโหลใส่น้ำมา  บอกว่าอยากได้น้ำมนต์ไปรดร้านให้ค้าขายดี   ตอนนั้นหลวงปู่เนียมท่านมุงหลังคาอยู่  "เออ..ใช้ได้แล้ว เอาไปเถอะ"  เถ้าแก่เดินพ้นวัดไปก็โมโห   "ไม่เห็นเสกอะไรเลย  บอกว่าใช้ได้แล้ว..!" ก็ท่านยังอยู่บนหลังคา ไม่ได้เข้าใกล้ด้วยซ้ำไป
 
 พอคว่ำโหลน้ำจะเททิ้ง ปรากฏว่าน้ำไม่ไหลออก  และโหลก็หลุดมือ ตกถึงพื้นโหลแตกแต่น้ำก็ยังเป็นรูปโหลอยู่อย่างนั้น  กลายเป็นน้ำแข็งไปเลย  เถ้าแก่ก็เลยต้องเอาผ้าขาวม้าห่อน้ำกลับบ้าน  แกจึงได้เชื่อว่า "เสกแล้ว..ใช้ได้"  จะว่าเป็นบุญของเขาก็ได้  ถ้าเป็นเราปล่อยก็ให้ตกแตกไปแล้ว  ให้นั่งร้องไห้เสียดายอยู่ตรงนั้น แต่หลวงปู่ท่านเป็นพระที่เมตตาจริง ๆ  ท่านก็เลยสงเคราะห์ให้
 
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2010 เมื่อ 13:14
 |