ฉะนั้น การดูทีวี การฟังวิทยุ การอ่านหนังสือธรรมะ จึงมีผล ๒ อย่าง คือ
๑. ได้ประโยชน์ ได้ความสุข ได้พระธรรม หรือได้ขนมหวานไปบริโภค ถ้าผู้แสดง ผู้พูด ผู้เขียน รู้จักพระธรรม ตามความเป็นจริง หรือเป็นสัมมาทิฏฐิ หรือมีความคิดเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้สอนไว้
๒. ไม่ได้ประโยชน์ ได้แต่ความทุกข์ ได้แต่ธรรมที่เป็นอกุศล หรือของปลอม หรือได้ยาพิษไปบริโภค เพิ่มทุกข์ เพิ่มโทษให้กับตนทุกครั้งที่ดู ที่ฟัง ที่อ่าน เพราะเขาแสดงแต่สิ่งที่ไร้สาระ ให้ยาพิษแก่ผู้ดู ผู้ฟัง ผู้อ่านตลอดเวลา เนื่องจากเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิ
มีความเห็นตรงข้ามกับที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ และยังค้านคำสอนของพระองค์ด้วย โดยใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยโวหาร ใช้สำนวน ใช้คารมฝีปากกล้า ขาดความละอาย น้อมใจให้ผู้ดู ผู้ฟัง ผู้อ่านเชื่อตามเขา เพราะเขารู้ดีว่าในโลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาด
ต้นเหตุก็เพราะเขาคิดผิด หลงผิด หรือเป็นมิจฉาทิฏฐิ จึงยังผลให้ความชั่ว ความหลงผิดอีก ๗ อย่างเกิดขึ้นกับใจของเขา คือ มีความดำริไปในทางที่ผิด มีวาจาที่ผิด มีการงานหรือแนะนำให้ผู้อื่นกระทำในทางที่ผิด หาเลี้ยงชีพในทางที่ผิด ทำความเพียรไปในทางที่ผิด มีสติระลึกแต่สิ่งที่ผิด และจิตเขาก็ตั้งมั่น ยึดมั่นอยู่กับสิ่งที่ผิด เพราะหลงผิดตั้งแต่ต้นว่าเขาทำถูก
|