แต่ว่าอย่างภิกษุฉัพพัคคีย์ มาตอนหลังโดนอาบัติปาราชิก เพราะว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านไปเผาป่าทำให้คนตาย ครั้งแรกที่ท่านเผาป่า พระพุทธเจ้าถามว่า ท่านมีเจตนาหรือไม่ ? ท่านบอกว่าไม่มี พระพุทธเจ้าก็ปรับอาบัติที่รองลงมา
แต่ว่าครั้งต่อมาถามว่ามีเจตนาไหม ? ท่านบอกว่า “มี ตั้งใจเผาจะให้เขาตาย”พระพุทธเจ้าตรัสว่า พวกท่านโดนอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว เพราะฉะนั้น พวกท่านสบายใจได้ว่า ฉัพพัคคีย์นี้ไม่รอดแน่ โดนอาบัติปาราชิกไปแล้ว
พวกเราเป็นพระ โดยเฉพาะเป็นพระใหม่ นอกจากเรื่องของการรักษาศีลแล้ว ยังมีการสวดมนต์ไหว้พระที่เป็นเรื่องสำคัญ ต้องรีบท่องบทสวดมนต์ให้ได้ ถ้าหากว่าท่องคำสวดมนต์ไม่ได้ภายในสองพรรษา พวกคุณจะไม่มีอารมณ์ที่จะไปท่องอีกเลย
เพราะว่ายิ่งภาวนาแล้วอารมณ์ใจเราดี เราจะไม่เสียเวลาไปท่องคำสวดมนต์ แต่ว่าตัวผมเองนั้น ผมเอาดีได้จากการสวดมนต์ สมัยก่อนตอนที่ตั้งใจจะสวด ผมจะลองทรงสมาธิดูว่า ผมจะสามารถสวดมนต์ได้ในระดับสมาธิที่ลึกตื้นแค่ไหน ?
ถ้าสมาธิลึกเกินไปก็ไม่เอากับเราหรอก บางทีผิดไปเลย แต่ถ้าหากว่าถอยออกมาในระดับพอดี ๆ อย่างอุปจารสมาธิหรือปฐมฌาน เราจะสวดได้ ได้ดีด้วย แล้วก็จะไม่พลาด จำแม่นอีกต่างหาก
หรือไม่ผมก็ซ้อมทำทิพจักขุญาณ ถึงเวลาสวดมนต์ไปก็นึกถึงตัวหนังสือ ให้วิ่งขึ้นมาเป็นแถว ๆ เราเห็นตัวหนังสือนั้นชัดเจนเท่าไร เราก็เห็นผี เห็นเทวดา ชัดเท่านั้น หรือบางทีก็ขึ้นพระนิพพานไปเลย ไปสวดถวายพระพุทธเจ้า ถ้าหากว่าเราไปอยู่บนนิพพาน ถ้าเราตายขึ้นมาตอนนั้น เราก็ไปนิพพานเลย
การที่เราเอาใจเกาะพระนิพพาน ซึ่งเป็นสถานที่ละเอียดด้วยอารมณ์ ถ้าหากว่าเราไม่เคยชิน จะเกาะไม่ติด ไม่ทันรู้ตัวก็ลงมาแล้ว เราก็..อ้าว..ยังไม่ทันคิดจะลงเลย ลงมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ?
ดังนั้น..ผมจึงสวดมนต์ได้เยอะ แล้วผมใช้วิธีขึ้นไปสวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา ต่อหน้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ถ้าหากว่าจิตเราบอกว่ายังมีงานทำ ก็ยังผูกอยู่ตรงนั้น งานยังไม่หมดก็จะไม่ลงมา
ผมใช้วิธีสวดมนต์ให้มาก ยิ่งสวดได้มากเท่าไรก็อยู่ได้นานเท่านั้น ทำให้จิตของเราเคยชินกับพระนิพพาน พอชินกับอารมณ์พระนิพพาน เราก็สามารถจะทรงตัวอยู่กับพระนิพพานได้นานอย่างที่เราต้องการ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-07-2010 เมื่อ 21:40
|