| 
				  
 
			
			"หลังจากนั้นอาตมายังมีโอกาสดูแลหลวงปู่มหาอำพันอีก  รวม ๆ แล้วจะมีระยะเวลาของการอยู่กับผู้ป่วย  หรืออยู่โรงพยาบาลรวมแล้วสิบกว่าปี  
 บางทีตัวเองป่วยไปอยู่โรงพยาบาล พอหมอมาตรวจเราก็รายงานทุกอย่างเหมือนนางพยาบาลเขารายงาน เขาก็สงสัยว่าเราป่วยบ่อยหรือ ?  ป่วยบ่อย..แต่เข้าโรงพยาบาลไม่บ่อย  ไม่จำเป็นจริงจะ ๆ ไม่เข้า ยกเว้นโดนเขาบีบคอถึงจะยอมไป..!
 
 สรุปตรงที่ว่า  ถ้าหากเราผ่านในความยากลำบากของชีวิตมาก่อน ก็จะไม่มีสิ่งใดให้เราต้องลำบากอีก เพราะฉะนั้น..ท่านทั้งหลายที่ตะเกียกตะกายไปบึงลับแลมา  แล้วรู้สึกว่าลำบาก  ขอยืนยันว่าที่นั่นยังสบายอยู่...
 
 ความสบาย..ทำให้คนอ่อนแอลง  ความเข้มแข็งของกำลังใจลดลง พระปฏิบัติส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะถือธุดงควัตร เพื่อเป็นการขัดเกลากิเลส   การขัดเกลากิเลสพระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า สัลเลขธรรม  คือธรรมอันเป็นเครื่องขัดเกลา  ปวิเวกธรรม  ธรรมอันเป็นเครื่องหลีกออกจากหมู่
 
 ดังนั้น..ในแต่ละปีควรจะมีเวลาเป็นของตัวเอง ได้ไปปฏิบัติให้ต่อเนื่องกันสัก ๗ วัน หรือ ๑๐ วัน   เป็นการสั่งสมกำลังของตัวเอง
 
 อาตมาเองเป็นคนหวงเวลาส่วนตัวมาก  พอถึงเวลาก็จะไม่ยุ่งกับใครแล้ว เอาเรื่องของตัวเองเป็นใหญ่   โดยเฉพาะช่วงก่อนที่จะมาเป็นอาจารย์สอนนักศึกษา ช่วงเดือนมกราคมจะเป็นช่วงเวลาที่ออกป่า  เหมือนอย่างกับว่าเราไปเพิ่มพลังให้กับตัวเอง
 
 เรื่องของการปฏิบัติควรจะมีเวลาทำต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง บ่อย ๆ แล้วจะมีความก้าวหน้า ไม่อย่างนั้นแล้วเหมือนกับว่า เราตำข้าวสารกรอกหม้อ ไม่ค่อยจะพอกรอกด้วย  ทำนิด ๆ หน่อย ๆ ในแต่ละวัน ไม่พอใช้งานเสียด้วยซ้ำ  แล้วจะเอากำลังสะสมที่ไหนไปสู้กิเลสได้
 
 ที่พูดมานี้เพื่อว่า ใครก็ตามที่ทำงานอยู่  พยายามดูว่าช่วงไหนที่มีวันหยุดยาว ๆ หรือช่วงไหนที่เราลาพักร้อน หรือมีสิทธิ์ที่จะลาตามกฎระเบียบสถานที่ทำงานของเรา ก็สะสมวันให้ได้ห้าหรือเจ็ดวัน สามวันแรกนี่ไม่ต้องเลยนะ   ขอยืนยันว่าสามวันแรกกำลังฟุ้งเต็มที่ ไปเริ่มดีเอาวันที่สี่ทั้งนั้น"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-06-2010 เมื่อ 22:42
 |