เรื่องการปฏิบัติกระผมเองก็ไม่ได้ทิ้ง เมื่อก่อน (นานมาแล้ว) เคยกราบเรียนขอความเมตตาหลวงพ่อ
ทัดฤทธิ์ :หลวงพ่อขอรับ กระผมเองว่ากระผมปฏิบัติแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น แล้วทำไม ไม่เห็นมันจะดีขึ้นหรือก้าวหน้าขึ้นเลยครับ
หลวงพ่อ :คุณแน่ใจหรือว่าคุณทำชนิดที่เรียกว่า "หัวไม่วางหางไม่เว้น" (เสียงหลวงพ่อดุ ๆ)
ถ้าคุณทำได้แบบนั้น จะหาคำว่าไม่เจริญ ไม่ก้าวหน้า ไม่ได้หรอก
หน้าที่ที่ผมต้องรีบทำตอนนี้ คือหันกลับมาตอกย้ำตัวเองก็คือ ทำ ทำ ทำ และ ทำต่อไป
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำบุญตักบาตรกับหลวงพี่ ที่สำนักสงฆ์จุดประทีป ช่วงเย็นก็ได้ตามประทีปบูชาพระรัตนตรัยและพระบรมสารีริกธาตุและทำสมาธิภาวนาอยู่นาน หลังจากนั้นก็ได้สนทนาธรรมกับท่าน
หลวงพี่:ลูกเป็นอย่างไรบ้างโยม ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ ตั้งใจปฏิบัติไปนะโยม มีทุกข์ก็กำหนดรู้ว่าทุกข์ ดูมันให้เห็นแล้ววางลงให้ได้
เป็นประโยคไม่สั้นไม่ยาว ที่ท่านคอยเตือนสติอยู่เสมอ ๆ อีกเรื่องกระผมว่ากระผมก็โชคดี ถึงแม้นตอนนี้ ทางบ้านจะมีเรื่องวุ่นวาย แต่คนในบ้านต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ถึงแม้นในบ้านจะมีผมปฏิบัติอยู่เป็นหลักแค่คนเดียว แต่ทุกคนก็ทำให้ผมมีเวลาในการไปปฏิบัติภาวนาหรือทำบุญทำทานเสมอ ในความมืดยังมีแสงสว่างเสมอ ๆ กาลเวลามันกำลังกลืนกินทุกอย่างไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ยังดีที่ยังได้ปฏิบัติ
ตอนไปงานสืบชะตาหลวงพ่อ เจอแต่ "แฟนพันธุ์แท้" ของกระทู้นี้เข้ามาทักทาย
สาวไม่ค่อยขาวแต่ก็ไม่ค่อยสวย : ติดตามอ่านตลอดค่ะ
ทัดฤทธิ์: ครับ ๆ ขอบคุณมากครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
(ว่าจะขอค่าลิขสิทธิ์ก็ไม่กล้า เก็บแค่คนละบาท (ทองคำ) ก็รวยแล้ว)
ช่วงนี้บรรยากาศของเรื่องราวอาจจะออกแนว "ม่าม่า" ขออภัยครับ บรรยากาศอาจจะออกแนวละครเคล้าน้ำตาไปสักนิด แต่ก็ขอยืนยันว่า ทุกอย่างมันออกมาจากเรื่องจริง การปฏิบัติจริงทั้งนั้นและนี้ก็เป็นช่วงปัจจุบัน ซึ่งอีกไม่นานมันก็คงหมุนเวียนเปลี่ยนไปเป็นอดีต อันแสดงให้เห็นว่า "มันไม่เที่ยง ไม่จีรังยั่งยืนอันใดเลย"
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 29-06-2010 เมื่อ 23:39
|