| 
				  
 
			
			ผู้ปกครองสมัยนั้น  บางทีก็อยากได้หน้า อยากได้ผลงาน   และอาจจะไม่ชอบปฏิปทาอะไรบางอย่างของหลวงปู่ครูบาศรีวิชัย  อาจจะรู้สึกขัดหูขัดตาหรือไม่ยอมให้ผลประโยชน์ต่อเขา   ก็เลยฟ้องร้องเข้ามาทางกรุงเทพฯ 
 สมัยนั้นพวกโทษกบฏ  โดนตัดหัวถึงเจ็ดชั่วโคตร  ตอนแรกบรรดาพระเณรและฆราวาสทั้งหลายก็จะแห่ลงมากรุงเทพฯ กัน  เพื่อช่วยแก้ต่างให้   แต่หลวงปู่ครูบาท่านบอกว่าขอมาคนเดียว   เพราะไม่อย่างนั้นจะโดนคนเขากล่าวหาหนักขึ้นว่า ใช้กำลังมาบังคับกัน  จะเป็นลักษณะกบฏชัดเจน
 
 พอมาสอบสวนแล้ว   ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะกลับขึ้นไปก็หลายเดือน  ช่วงนั้นเขาก็ตามกวาดล้างบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญของครูบา  หลวงปู่ขาวปีก็เลยโดนจับสึก
 
 สภาพการจับสึกต้องบอกว่าใจคนมันด้าน  ก็คือ เขาถอดสังฆาฏิที่ถือว่าเป็นเครื่องหมายของพระออก   หลวงปู่ครูบาขาวปีท่านอธิษฐานให้เทวดาฟ้าดินเป็นพยานว่า   ถ้าท่านไม่ผิดอย่างที่เขาว่า  ขอให้แสดงอะไรเป็นประจักษ์พยานด้วย   ท่านถอดสังฆาฏิพาดไว้บนต้นไม้ที่ยืนแห้งตาย  ต้นไม้แตกใบใหม่เดี๋ยวนั้นเลย..!
 
 แต่คนก็ยังไม่เชื่อ จับท่านสึกจนได้  เอาผ้าขาวให้ท่านนุ่ง  พอท่านนุ่งผ้าขาวเสร็จ กะเหรี่ยงก็เอาช้างมาแห่ท่านไปเลย  กะเหรี่ยงบอกว่า  "ตุ๊เหลืองตุ๊พวกเจ้า แต่ตุ๊ขาวตุ๊ของเฮา" เพราะกะเหรี่ยงเขานิยมพวกฤๅษีซึ่งนุ่งขาวห่มขาวอยู่แล้ว
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-06-2010 เมื่อ 14:37
 |