ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 03-06-2010, 10:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประเภทที่ ๒ เรียกว่า ขันธมาร ก็คือ ร่างกายของเราที่เป็นมาร บางท่านที่ไปเที่ยวไปกินไปเล่น ร่างกายจะแข็งแรงมาก อดหลับอดนอนเที่ยวเตร่ได้สามวันเจ็ดวันติดต่อกัน แต่ถ้ามาทำความดี เดี๋ยวก็เจ็บนั่นป่วยนี่ เป็นได้หัวไม่วางหางไม่เว้น จนกระทั่งหลายท่านเข้าใจผิดไปเลยว่า เพราะทำความดีจึงเป็นอย่างนี้ แล้วก็ไม่ยอมทำความดีอีก ถ้าเป็นดังนั้นก็แปลว่า เขาขวางท่านไว้ได้ สมดังใจของเขา

ประเภทที่ ๓ เรียกว่า อภิสังขารมาร ก็คือ กำลังใจของเราที่โดนหนุนด้วยกรรมที่สร้างมา ทำให้นึกคิดปรุงแต่งไป ไม่ว่าต้องการในด้านที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม ล้วนแล้วแต่สร้างความฟุ้งซ่านแก่จิต จิตไม่สามารถจะรวมตัวมั่นคงเป็นหนึ่งเดียวได้ ก็มีกำลังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเขาทั้งหลายเหล่านั้น

ประเภทที่ ๔ เรียกว่า เทวปุตตมาร เป็นมารที่อยู่ในลักษณะของเทพบุตร เทพธิดา หรือแม้กระทั่งครูบาอาจารย์ที่มาทดสอบกำลังใจของเรา ถ้าหากว่ารู้เท่าทัน ก้าวพ้นไปได้ เขาก็จะเป็นครูที่ดีอย่างยิ่ง แต่ถ้ารู้ไม่เท่าทัน ก้าวไม่พ้น เขาก็จะเป็นมาร คือผู้ขวาง หรือผู้ฆ่าเราเสียจากความดีนั่นเอง

ประเภทที่ ๕ เรียกว่า มัจจุมาร คือความตาย บางท่านกำลังใจเข้มแข็งมาก เด็ดขาดมาก ถ้าหากปฏิบัติแล้วต้องได้ดีอย่างแน่นอน ในเมื่อเขาไม่สามารถขวางได้ด้วยวิธีอื่น ก็จะดึงเอาวาระกรรมที่เหมาะสม อย่างเช่นในอดีตเราเคยฆ่าคน หรือฆ่าสัตว์ใหญ่เอาไว้ เขาจะฉวยจังหวะที่กรรมนั้นมาสนอง ทำให้เราถึงแก่ความตายไปเลย จึงได้เรียกว่ามัจจุมาร คือ ความตายมาขวาง หรือมาฆ่าเราจากความดี

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นักปฏิบัติจะต้องพบเป็นปกติ บางทีรู้ไม่เท่าทันก็เสียท่า เพราะว่าเผลอไปโกรธ ไปหงุดหงิด ไปกลัดกลุ้ม ไปคล้อยตาม ทำให้เขาขวางเราได้สำเร็จ

สิ่งที่มารใช้เป็นเครื่องมือนั้น นอกจากจะเป็นคนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัวดังกล่าวมาแล้ว ยังอาศัยกำลังใจที่เป็นอิฏฐารมณ์ คือในส่วนที่พอใจ และอนิฏฐารมณ์ คือ ส่วนที่ไม่ชอบใจ ทั้งสองอย่างนี้เป็นเครื่องมือ เพื่อที่จะขัดขวางเราไม่ให้เข้าถึงความดีดังที่ต้องการ

โดยเฉพาะบางท่านพอเริ่มทำความดี ก็จะถูกดลจิตดลใจให้ปรามาสพระรัตนตรัยเป็นปกติ ทำให้เข้าถึงความดีไม่ได้ เพราะการปรามาสพระรัตนตรัยด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจก็ตาม เป็นเครื่องขวางไม่ให้เราก้าวเข้าสู่ความเป็นพระอริยเจ้าได้

เนื่องจากกติกาของความเป็นพระอริยเจ้าข้อแรก คือ การเคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม และเคารพพระสงฆ์ด้วยความจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2010 เมื่อ 15:33
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา