ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 13-05-2010, 11:17
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ง) ในการปฏิบัติเรื่องจิตในจิต และธรรมในธรรม หมายความว่า จิตในจิต ให้รู้อารมณ์ของจิตตลอดเวลา เมื่อถูกกระทบด้วยอายตนะสัมผัส ๑๒ คือ ภายนอก ๖ (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสและธรรมารมณ์) ภายใน ๖ (ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ)

ธรรมในธรรม มีหลักสำคัญว่า ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ ทุกสิ่งสำเร็จได้ที่ใจ พระธรรมเกิดจากจิตในจิต (อายตนะนอกและในกระทบกัน) เป็นอภิธรรมได้ถึง ๔๒,๐๐๐ บท ย่อแล้วเหลือแค่ ๓ คือ ธรรมที่เป็นกุศล (กุศลาธัมมา) ธรรมที่เป็นอกุศล (อกุศลาธัมมา) และธรรมที่เป็นกลาง ๆ (อัพยากตาธัมมา หรืออัพยากฤตธรรม) มีรายละเอียดอยู่มากตามระดับจิตในจิต และธรรมในธรรม หมายความว่า จิตละเอียดระดับไหนก็รู้ธรรมได้ละเอียดระดับนั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วมีถึง ๘๔,๐๐๐ บท

จ) ธรรมทั้ง ๔ อย่างนี้ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม ล้วนเกิดดับ ๆ ตลอดเวลา เป็นสันตติธรรม รู้หรือสัมผัสรู้ได้ด้วยตาปัญญาเท่านั้น ว่าธรรมทั้ง ๔ ตัวนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ผู้ที่ไปรู้ธรรมทั้ง ๔ ตัวนี้คือจิต

จิตคือตัวเรา เป็นผู้รู้อย่างแท้จริง และต้องรู้อยู่ตลอดเวลา ด้วยการมีสติต่อเนื่องไม่ขาดสาย หรือมหาสติปัฎฐานนั่นเอง แต่เวลานำไปปฏิบัติแล้ว ปรากฎว่ามันง่ายนิดเดียว เพราะหลักสูตรมหาสติปัฏฐานนี้ พระองค์ทรงตรัสว่าเป็นทางสายเอกในการบรรลุธรรม มีผล ๒ อย่าง คือ ขั้นต้นเป็นอนาคามีผล ขั้นสองเป็นอรหัตผล จึงถึงบางอ้อว่ามันง่ายนิดเดียว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา