| 
				  
 
			
			"ความเชื่อในลัทธิการเมืองไม่ใช่ความผิด  แต่วิธีการปฏิบัติจะต้องเป็นไปตามกติกาที่เขากำหนด  อย่างเช่นว่า มาสู้กันในรัฐสภา   ถ้าหากสู้เขาไม่ได้  ก็ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่เขาต้องการรูปแบบนั้น  เราก็ต้องยอมตามเขา ไม่เปลี่ยนความคิดของตัวเอง  แต่ว่ารอจนได้โอกาสอีกครั้ง ก็คือ  เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่  
 ในลักษณะอย่างนี้ที่เขาพูดกันอยู่ กลายเป็นการปลุกระดมสร้างอารมณ์ร่วม ไปกระตุ้นอารมณ์เกลียดชังอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นวิธีการที่ผิดตั้งแต่แรก   ในเมื่อเห็นเขาเป็นคนละฝ่าย ความคิดที่จะให้เกิดความสามัคคีก็เกิดไม่ได้    เราแค่รับฟังเราก็รับรู้ได้ถึงกระแสโทสะเต็ม ๆ  เลย แล้วจะไปสามัคคีกันได้อย่างไร ?
 
 ถ้ามองต้องมองอย่างในหลวง ไม่ว่าจะเสื้อสีใด ไม่ว่าจะศาสนาไหน  จะคนดีหรือคนชั่ว ก็คือพสกนิกรที่พระองค์ท่านต้องปกครองดูแล  เพียงแต่พระองค์ท่านให้แนวไว้ว่า  ต้องสนับสนุนให้คนดีมีอำนาจในการปกครองจริง ๆ  เพื่อที่จะได้ข่มคนชั่วเอาไว้
 
 การเล่นการเมืองในบ้านเรานั้นล้าหลังและน้ำเน่า  มักจะสาดโคลนใส่กัน  อยู่ในลักษณะที่ถ้าข้าชั่วเอ็งก็เลว  ไม่มีการนำเอาข้อดีต่าง ๆ  ขึ้นมาว่ากัน กลายเป็นไปขุดเอาความไม่ดีของอีกฝ่ายมาโจมตีกัน
 
 ถ้าจะหาเสียงโดยไม่ให้กระทบกระทั่งคนอื่นเขา  ก็คือ    ตัวเองจะทำอะไร  คิดว่าจะทำสิ่งที่ดีงามให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างไร    มีแนวนโยบายที่จัดการในเรื่องอย่างนี้อย่างไร คงต้องรอพัฒนาการอีกสักชั่วคนหรือสองชั่วคน..!"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2010 เมื่อ 17:54
 |