| 
				  
 
			
			พระอาจารย์เล่าเรื่องอาจารย์ยกทรง ให้ฟังว่า "มีเรื่องตลกก็คือ ประมาณปี ๒๕๒๓ อาจารย์ยกทรงมากราบหลวงพ่อครั้งแรกที่บ้านสายลม หลวงพ่อก็ถามว่า "โยมชื่ออะไรจ๊ะ ?"
 "วีระครับ" พวกก็ฮากันตรึม เพราะชื่อตรงกับหลวงพ่อ
 หลวงพ่อถามต่ออีกว่า "แล้วแม่บ้านล่ะ ?"
 "แม่บ้านชื่อประภาศรีครับ" ยิ่งฮาเข้าไปใหญ่
 ท่านบอกว่า "ไอ้นี่ขโมยทั้งผัวทั้งเมีย ชื่อแม่มันก็เอา ชื่อพ่อมันก็เอา มันเอาหมดเลย"
 
 ก่อนหน้านี้ตรงสยามพารากอน ยังไม่โดนเวนคืน อาจารย์ยกทรงเปิดร้านอยู่ตรงนั้น จริง ๆ อาจารย์ยกทรงชื่อ วีระ งามขำ แต่เขาเปิดร้านตัดยกทรง ชื่อร้านเงิน เงิน เงิน  พูดง่าย ๆ ว่าขนาดจะไม่ได้มาตรฐานหรือเกินมาตรฐานอย่างไร ถ้าไปที่นั่นแล้วจะได้ขนาดที่พอเหมาะกับตนเอง
 
 อาจารย์ยกทรงก็มาปรารภว่า "ผมบวชมากว่ายี่สิบพรรษา  ดันทะลึ่งสึกมาตัดยกทรงขาย" เพราะว่าแม่บ้านเขาเรียนเรื่องนี้มา สมัยก่อนคนที่มีอาชีพตัดเสื้อผ้า ถ้าหากยังไม่สามารถตัดยกทรงผู้หญิงได้ ก็เท่ากับว่าฝีมือยังไม่ถึง เพราะการตัดยกทรงนั้นยากที่สุด
 
 พอโดนเวนคืนเพื่อเอาที่ไปสร้างสยามพารากอน ท่านยกทรงของเราก็เลยไปอยู่วัดแทน แล้วก็ตายในวัด สมกับเป็นนักปฏิบัติ  ด้วยความที่บวชมามาก เคยเป็นนักเทศน์มา ท่านสามารถที่จะถามหลวงพ่อแล้วใส่ลูกเล่นให้โยมเขาชอบฟังกันได้ แต่ท่านบอกว่า เลิกถามทีไรก็เหงื่อหยดทุกที ต้องเข้าไปกราบขอขมาหลวงพ่อทุกครั้ง เพราะเกรงว่าจะเป็นโทษแก่ตัวเอง แต่คนทั่ว ๆ ไปที่เขาไม่รู้  ว่าอาจารย์ยกทรงต้องไปกราบขอขมาหลวงพ่อทุกครั้ง  ก็ไปตำหนิเข้าว่าท่านลามปาม
 
 คนรุ่นเก่า ๆ ก็ล่วงลับไปเรื่อย  รุ่นลายครามนาน ๆ ก็โผล่มาที่นี่ที  ไม่ใช่เขาไม่รู้จักมานะ แต่มาไม่ไหวแล้วต่างหาก..!"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2015 เมื่อ 18:07
 |