| 
				  
 
			
			พระอาจารย์ท่องกลอนเรื่อง นกมีหู หนูมีปีก ให้ฟัง  ซึ่งมีใจความคล้ายกับสถานการณ์ความไม่สงบในปัจจุบัน  
 ร่ำปางติรัจฉาน...........เกิดล้างผลาญกันและกัน
 สงครามใหญ่ครามครัน...ยิ่งกว่าพวกสัตว์ทั้งผอง
 จตุบททวิบาท.............ต่างฝ่ายขาดความปรองดอง
 ยกพวกยอพลผยอง......กลาดเกลื่อนกลุ้มตะลุมบอน
 ทั่วโลกทุกแหล่งหล้า......ทั่วท้องฟ้าทั่วสาคร
 ภายในใต้ดินดอน..........ห่อนละเว้นเข่นฆ่ากัน
 ศึกคนฤๅจักสู้..............ศึกนกหนูใหญ่มหันต์
 แต่ข้างค้างคาวนั้น.........บ่มิขันสู้กับใคร
 ประสบสัตว์สี่เท้า..........ก็พลอยเข้าเป็นพวกไป
 โดยอ้างว่าตัวไซร้..........มีสี่เท้าเค้าหน้าเหมือน
 พบนกเข้าพวกนก..........พูดโกหกทำแชเชือน
 ไม่ใช่สี่เท้าเถื่อน...........เพราะบินได้ในเวหา
 แรก ๆ เขาหลงเชื่อ........ก็เอื้อเฟื้อบ่บีฑา
 ครั้นเขารู้มารยา...........เขาต่างตัดไมตรีสลาย
 ค้างคาวหมดปัญญา.......ต้องหลบหน้าอยู่เดียวดาย
 รุ่งเช้าพอเพลางาย........มุดหัวซ่อนนอนเป็นผี
 มืดค่ำจึงกล้าออก..........เที่ยวปลิ้นปลอกไปตามที
 สัตว์อื่นเขาคืนดี............แต่ค้างคาวเขาหน่ายแหนง
 อันว่าหมาหัวเน่า...........ไม่ร้ายเท่าที่สำแดง
 ลวงโลกโลกระแวง.........แหนงหน่ายเห็นเช่นค้างคาว
 
 สำหรับกลอนนี้พระอาจารย์บอกว่า ท่องตั้งแต่สมัยประถม พี่ทิดตู่จึงถามว่า "หลวงพี่ยังจำได้หมดอีก ?" พระอาจารย์จึงบอกว่า "เรียนอะไรตูลืมหมด แต่ถ้าจะเอา ก็มาเอง..!"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2010 เมื่อ 20:35
 |