แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพเคยฝึกเรื่องการเดินลมปราณแบบกำลังภายในมาแต่เด็ก พอมาทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรม ปรากฏว่าสภาพจิตไม่ยอมอยู่ที่ลมหายใจ ๓ ฐานตามที่เราต้องการ พอหายใจเมื่อไร ก็จะโคจรไปตามเส้นลมปราณที่เราเคยชิน เพราะว่าทำมานาน จนกระทั่งมาภายหลังฝึกมโนมยิทธิแล้วถึงได้เข้าใจว่า ลักษณะของการเดินลมปราณ ก็เหมือนกับการเคลื่อนจิตของมโนมยิทธินั่นเอง เพียงแต่ว่าเป็นการเคลื่อนจิตอยู่ภายในกายของตนเอง ขณะที่มโนมยิทธิสามารถเคลื่อนจิตไปตามภพภูมิต่าง ๆ ก็ได้
ก็แปลว่าถ้าเรายังอ่อนซ้อม ขาดการซักซ้อมให้ดี โอกาสที่เราจะสามารถใช้งานจริงได้ก็จะมีน้อย ยิ่งถ้าถึงเวลาไปเจอท่านที่สมาธิสูง ๆ ก็จะสั่น แบบเดียวกับน้องการ์ตูน (นางสาวศรัณย์พร บุรินทรโกษฐ์) หัวหน้าทัวร์บัสที่ ๑ ที่ไปอินเดีย - เนปาล มาด้วยกัน เอาน้ำชาร้อนมาถวายกระผม/อาตมภาพ ก็สั่นจนหก..! เรื่องพวกนี้จะตำหนิก็ไม่ได้ เนื่องเพราะว่าบางทีก็เผลอ พยายามที่จะ "เก็บ" แล้ว แต่ก็ยัง "เก็บ" ไม่หมด..!
แบบเดียวกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง มีอยู่วันหนึ่งท่านกำลังฉันเพลอยู่ แต่กระผม/อาตมภาพฉันเสร็จแล้ว ก็จะต้องมาเปลี่ยนเวร เนื่องเพราะว่าเป็นเวรบ่าย ก็คือเข้าตั้งแต่เที่ยงจนถึง ๖ โมงเย็น พอเดินขึ้นมาบริเวณหน้าตึก ขึ้นบันไดได้ก็พนมมือไหว้ไปทางท่านที่ฉันเพลอยู่ในห้อง เพราะว่าทางมุมนั้นจะมีหน้าต่างที่มองผ่านมุ้งลวดไป แล้วจะเห็นท่านนั่งฉันเพลอยู่ ตัวเองก็ตั้งใจจะเปิดมุ้งลวดเข้าไปยังห้องยามหน้าตึก
เสียงท่านเรียก "เฮ้ย..เล็ก" แต่กำลังท่านหลุดออกมาด้วย กระผม/อาตมภาพเข่าอ่อนลงไปกองกับพื้น พอท่านเห็น ท่านก็บอก "เออ ๆ ไม่เป็นไร ทำหน้าที่ไปก่อน เดี๋ยวพ่อออกรับแขกแล้วค่อยคุยกัน" ก็คือตอนนั้นเหมือนอย่างกับกบเขียดตัวเล็ก ๆ อยู่ตรงหน้าพญางูจงอางอย่างนั้น..! ดังนั้น..ท่านที่ทำได้แล้วส่วนใหญ่ก็จะ "เก็บ" ก็คือไม่ปล่อยพลังออกมามากนัก ไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวคนรอบข้างอยู่ไม่ได้..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ต้องฝึกซ้อมจนกว่าจะใช้งานได้จริง ให้ไปศึกษาในนวสีทั้ง ๕ ก็คือเริ่มตั้งแต่สมาปัชชนวสี ชำนาญในการเข้าสมาธิ วุฏฐานวสี ชำนาญในการออกจากสมาธิ ไล่ไปเรื่อย ๆ ไอ้บาลีบางทีแปลมาแล้วก็อ่านยาก อย่างที่บอกว่า ชำนาญในการพิจารณาตามลำดับฌาน ก็คือเข้าฌานตั้งแต่ อุปจารสมาธิ ๑ - ๒ - ๓ - ๔ เป็นต้น แล้วก็มีการย้อนหลัง มีการสลับไปสลับมา แต่พอเป็นบาลีว่ามา ถ้าเราขาดความมั่นใจ ขาดความคล่องตัว อ่านให้ตายก็ไม่เข้าใจ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:20
|