วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อครู่นี้การขึ้นบทขัดธัมมนิยาม ถ้าคราวหน้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ให้หายใจลึก ๆ สัก ๓ - ๔ ครั้งก่อน ไม่อย่างนั้นก็ได้นั่งสั่นอยู่แบบนั้นแหละ..! เนื่องเพราะว่าสมาธิของเราไม่สามารถที่จะใช้งานจริงได้ ถ้าสมาธิใช้งานจริงได้ สภาพจิตจะมั่นคง พูดง่าย ๆ ว่า "ไม่ประหม่า"
ถ้าหากว่ามาสายเวทมนตร์คาถา ก็เอาบทในภาณพระไปใช้ได้ บาลีท่านว่า "สีหะนาทัง นะทันเตเต ปะริสาสุ วิสาระทา" คือ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอยู่ในหมู่พุทธบริษัท ประหนึ่งพญาสีหราชแผดสีหนาท ก็คือไม่มีอะไรที่ต้องไปเกรงกลัวใคร..!
เพราะฉะนั้น..พวกเราจะเห็นว่าคนโบราณส่วนใหญ่แล้วเขาจะมีครูบาอาจารย์ มีพระรัตนตรัย หรือว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องยึด ถึงได้กล้าออกรบ กล้าต่อตีกับข้าศึก ซึ่งอาวุธสมัยก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ สมัยนี้อยู่ห่างกันเป็น ๑๐๐ กิโลเมตรก็ตายแล้ว..! สมัยนั้นต้องไปประจันหน้ากันด้วย หอก ดาบ แหลน หลาว ถ้ากำลังใจไม่มั่นคง เราก็ไม่สามารถที่จะสู้ใครได้
ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครเคยศึกษาอาคมมา ดูในบทโองการมหาทมื่น จะมีคำกล่าวว่า "เมื่อกูเอ่ยถึงครูกู ใครจักสู้กูก็มิได้" นั่นคือความมั่นใจที่เกิดขึ้น แต่ความมั่นใจทั้งหลายเหล่านี้ จะให้เกิดขึ้นตามปกติธรรมดาก็เป็นเรื่องยาก จึงต้องหมั่นขยันฝึกฝน จนกระทั่งสมาธิภาวนาสามารถกลืนเข้ากับชีวิตประจำวันของเราได้ จะทำอะไรอยู่ เราก็สามารถทรงสมาธิได้ ซึ่งในระยะแรก ๆ ก็ต้องอาศัยการท่องบ่นพระคาถาต่าง ๆ เพื่อช่วยสร้างสมาธิ
แต่ว่าจากที่กระผม/อาตมภาพเรียนมา มีคาถาหลายบทที่ครูให้กลั้นลมหายใจแล้วว่ารวดเดียว ๙ จบก็มี ๓ จบก็มี หนักที่สุดก็คือ ๑๐๘ จบในลมหายใจเดียว ซึ่งความจริงในลักษณะอย่างนั้นก็คือบังคับให้ตนเองมีสมาธิ เพื่อที่ผลของพระคาถาจะได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องเพราะว่าพระคาถาทุกบท เราจะทำได้ผลมากได้ผลน้อย ขึ้นอยู่กับกำลังสมาธิของเรา
การกลั้นลมหายใจก็คือการพาตัวเข้าไปสู่สภาวะของบุคคลใกล้ตาย..! ทันทีที่เราไม่หายใจ สภาพจิตไม่ว่าจะฟุ้งซ่านส่งส่ายไปถึงไหนก็ตาม จะย้อนกลับมาอยู่กับตัวเองทันที เนื่องเพราะกลัวว่าจะตาย โบราณเข้าใจตรงจุดนี้ จึงให้บุคคลที่ไม่ได้ฝึกฝนมามาก ใช้วิธีกลั้นหายใจแล้วภาวนาพระคาถา แต่ถ้าทำไปมาก ๆ จะมีผลเสีย ก็คือเมื่อถึงเวลาเราจะมาฝึกตามสายวิสุทธิมรรค ตามจับลมหายใจเข้าออก กลายเป็นว่าพอเริ่มทำเมื่อไรก็จะกลั้นหายใจทันที..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:16
|