เรื่องปรมัตถธรรม
ผมได้โยนิโสมนสิการ โดยการถามตัวเองเกี่ยวกับหัวข้อธรรมะต่าง ๆ เพื่อเข้าใจรายละเอียดของหัวข้อนั้น ๆ แต่ก็มีหลายเรื่องที่ตอบไม่ได้ ผมปัญญาไม่ถึง จึงขอพึ่งบารมีหลวงพ่อครับ
๑. ทุกอย่างนั้นเป็นอนัตตา และอนัตตาในที่นี้ คือการไม่มีเจ้าของ
แล้วใครเป็นคนได้บุญ ได้บาปเวลาทำกรรมต่าง ๆ ครับ?
ถ้าคำตอบคือตัวเรา แปลว่า ตัวตน (อัตตา) เรามี ซึ่งเป็นสัสสตทิฐิ ขัดกับสัมมาทิฐิ
ถ้าคำตอบคือไม่ใช่เรา ก็ขัดคำตอบก่อนหน้านี้ เพราะคนที่ได้รับก็เป็นเราอยู่ดี เช่น ทำบุญตัวเราไปสวรรค์ ทำชั่วตัวเราไปนรก
๒. สังขาร คือความคิดปรุงแต่ง จัดว่าอยู่ในกฎไตรลักษณ์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่เราเป็นเจ้าของเหมือนกัน
พิสูจน์ง่าย ๆ ด้วยการทดสอบให้ตัวเองหยุดคิดสักครู่ ผลที่ได้คือคิดถี่ขึ้น
แต่สมมุติว่า สมชายตั้งใจจะไปวัดทำบุญ ก็เป็นตัวสมชายเองที่ตั้งใจเอง ไม่ได้มีใครมาบังคับ
ดังนั้นก็สรุปได้ว่าสังขารก็เป็นของเรา
ซึ่งมันขัดกับข้อที่กล่าวก่อนหน้านี้ที่ว่าด้วยการหยุดคิด
ในข้อนี้ควรอธิบายอย่างไรดีครับ?
๓. มีคำกล่าวว่า ทุกสิ่งเกิดจากเหตุปัจจัยต่าง ๆ เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน มีรายละเอียดในระดับปรมัตถธรรมมากมาย
ต้องใช้ปัญญา หาเหตหาผล แยบคาย จึงจะเข้าใจอย่างแท้จริง ๑๐๐ % ว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่เรา แต่เป็นผลลัพธ์(output) ซึ่งเกิดจากเหตุปัจจัยต่างหาก(input)
ณ จุดนี้ผมก็พอเข้าใจและเห็นด้วยกับคำกล่าวด้านบน
แต่ปัญหาคือ แล้วนามธรรมอย่างบารมี ๑๐ ฌานสมาบัติ ความเป็นพระอริยเจ้า อย่างอรหัตผล พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ ท่านยึดหรือเปล่าว่าเป็นของเรา
สมมุติถ้าคำตอบคือว่า ใช่ท่านยึด ก็อาจจะขัดกับไตรลักษณ์
สมมุติถ้าคำตอบคือว่า ไม่ใช่ ก็แปลว่า พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ก็ไม่มีอรหัตผล ไม่มีฌานสมาบัติ ซึ่งขัดกับความจริง ผมเลยสงสัยว่าควรจะอธิบายอย่างไรดีครับในข้อนี้?
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นักเดินทางสังสารวัฏ : วันนี้ เมื่อ 03:50
|