หลังจากที่ถวายผ้าป่าและรับพรเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ขึ้นรถ ตรงไปยังด่าน ตม.อินเดีย ในไม่กี่นาทีก็มาถึงแล้ว แต่ขอโทษเถอะ...มีญาติโยมคณะหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นชาวพม่า กำลังรอแสตมป์พาสปอร์ตเพื่อออกจากประเทศอินเดีย แม้ว่าในสายตาของกระผม/อาตมภาพ เห็นว่าสามารถทำเสร็จภายในไม่เกิน ๑๐ นาที แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอ ๔๕ นาที..! พวกเราจึงต้องไปหลบหนาว รออยู่ในร้านกาแฟ สั่งน้ำชา กาแฟของเขามากิน
เมื่อถึงเวลาแล้ว น้องการ์ตูน (นางสาวศรัณย์พร บุรินทรโกษฐ์) ก็นิมนต์กระผม/อาตมภาพและคณะไปทำการปั๊มพาสปอร์ต เพื่อออกจากประเทศอินเดีย แต่ว่าคนอื่นผ่านไปหลายต่อหลายคนแล้ว ของกระผม/อาตมภาพก็ยังไปไม่รอดเสียที โดยสาเหตุก็คือชื่อยาวอีกตามเคย จนเจ้าหน้าที่ซึ่งตรวจจนตาลายแล้ว บอกให้เพื่อนมาอ่านทีละตัวอักษรให้เขาพิมพ์เข้าเครื่อง กว่าจะได้ตราประทับมาก็ทุลักทุเลเต็มทน..!
จากนั้นก็ต้องขึ้นรถมาเข้าคิว เพื่อที่จะเข้าทางประเทศเนปาล รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ กว่าที่เขาจะพร้อม พวกเราก็ต้องลงไปเข้าแถว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจดูว่า ได้ประทับตราพาสปอร์ตจากฝั่งอินเดียแน่นอนแล้ว ตรวจสอบรายชื่อกับบัญชีว่าตรงกับพาสปอร์ตแล้ว ก็ปล่อยให้พวกเราไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองเนปาล
แต่ว่าเวลานี้ก็ค่ำมืดลงแล้ว เจ้าหน้าที่หญิงที่เหลืออยู่คนเดียว ก็กำลังรบราฆ่าฟันอยู่กับน้องแหม่มคนหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร ? ไม่สามารถที่จะประทับตราเข้าประเทศเนปาลได้เสียที กระผม/อาตมภาพเห็นว่ามีป้ายของนายด่าน ซึ่งถ้าเป็นชื่อไทยก็คือ "ท่านเศรษฐา" คุณนวลจันทร์จึงโทรไปหาตามเบอร์ใต้รูป บอกนายด่านท่านว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่เหลืออยู่คนเดียวเท่านั้น และนักท่องเที่ยวฝรั่งนางนี้ก็มีปัญหา ส่วนพวกเรามากันประมาณ ๖๐ รูป/คน ขอให้นายด่านช่วยส่งคนมาเพิ่ม เพื่อที่จะช่วยประทับตราพาสปอร์ตให้พวกเราเข้าประเทศเนปาลได้ทันก่อนด่านปิดด้วย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:24
|