ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า วันนี้, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,592
ได้ให้อนุโมทนา: 160,872
ได้รับอนุโมทนา 4,522,903 ครั้ง ใน 37,207 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทุกคนไม่รู้ว่าสิ่งที่เหมือนกับแท่นกลม ๆ ทางด้านข้างนั้น ก็คือสถูปบรรจุอัฐิพระสีวลี พระอรหันต์ผู้เป็นเอตทัคคะทางผู้มีลาภมาก เมื่อกระผม/อาตมภาพบอกกล่าวไป ทุกคนที่วางของเอาไว้บนนั้นก็ตกใจ รีบหยิบออกกันเป็นการใหญ่ ท่านพระครูใบฎีกาจำนงค์ก็เลยทิ้งคณะ วิ่งมาร่วมกับพวกเราสวดมนต์ถวายสักการะ และปิดทองสถูปบรรจุอัฐิพระสีวลีด้วย

ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดินอ้อมทางด้านหลัง เพื่อที่จะดูความกว้างขวางใหญ่โตของเชตวันมหาวิหาร ซึ่งถ้าหากว่าเป็นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ก็มีพื้นที่ถึง ๓,๐๐๐ ไร่ แต่ว่าตอนนี้เล็กลงไปมากแล้ว

เมื่อกลับมาขึ้นรถแล้ว วิ่งต่อไปเพียงเล็กน้อย ก็ถึงเรือนของท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี มหาเศรษฐีใจบุญ ผู้เป็นเอตทัคคะบุคคลทางอุบาสกผู้เลิศในการถวายทาน ซึ่งท่านได้ซื้อที่ดินสำหรับสร้างวัดเชตวันมหาวิหารไปถึง ๑๘ โกฏิ ทำการสร้างอาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะมหาคันธกุฎี ถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปอีก ๑๘ โกฏิ จัดการฉลองด้วยการถวายทานต่อพระภิกษุสงฆ์ มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน หมดไปอีก ๑๘ โกฏิ พวกเราจึงมาเพื่อที่จะอนุโมทนากับท่านมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ

ครั้นพวกเราได้รับฟังประวัติและอนุโมทนากับท่านแล้ว ก็ได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน จากนั้นก็เดินข้ามถนนไปยังซากอาคารอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นของท่านปุโรหิตาจารย์ ผู้เป็นบิดาของพระองคุลิมาลเถระ แต่พวกเราไม่ได้สนใจอาคารแห่งนั้น หากแต่ว่าบริเวณด้านข้างอาคาร มีสถูปบรรจุอัฐิของพระองคุลิมาลเถระ ซึ่งเป็นสุดยอดของตัวอย่างในการกลับร้ายกลายเป็นดีของอุปฆาตกรรม

ก็คืออุปฆาตกรรมนั้นมีทั้งฝ่ายกุศลและฝ่ายอกุศล ถ้าฝ่ายอกุศลเข้า จากคนดี ๆ ก็อาจจะเป็นคนร้ายไปได้ แต่ถ้าฝ่ายกุศลเข้ามา ต่อให้คนที่ร้ายสุด ๆ อย่างองคุลิมาลโจร ก็กลับกลายมาบวช จนกลายเป็นพระอรหันต์ เป็นพระองคุลิมาลเถระ ที่ใคร ๆ ก็ชื่นชมว่าท่านสามารถกลับตัวได้ถึงขนาดนี้

จากนั้นพวกเราก็วิ่งกลับยังโรงแรม เพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ เนื่องจากคนของพวกเรามาก จึงมีการเข้าคิวยาวกันเป็นเด็กนักเรียนไปเลยทีเดียว เมื่อเข้าห้องน้ำกันเรียบร้อยแล้ว ประมาณ ๑๐ โมงของประเทศอินเดีย พวกเราก็เดินทางยังเมืองบาลามปุระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดสิทธารถราชมณเฑียร ๙๑๐ ซึ่งท่านเจ้าคุณกอล์ฟเป็นเจ้าอาวาสอยู่

เส้นทางที่วิ่งไปนั้น ต้องข้ามแม่น้ำอจิรวดี ผ่านด่านเก็บเงินตามเคย จนกระทั่งมาถึงวัดสิทธารถราชมณเฑียร ในเวลาประมาณ ๑๑ โมงครึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าอากาศตอนนี้ ๑๖ องศาเซลเซียส แต่พวกเรากลับรู้สึกหนาวกว่านั้นมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 05:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), คนไกลบ้าน (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), เด็กบางบัวทอง (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)